บทความเสริมคางคางสั้น เสริมหรือฉีดดี

เลิกลังเลใจ คางสั้น เสริมคางหรือฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน?

คางสั้น เป็นปัญหาที่หลายคนเป็นกันมาก ซึ่งปัญหานี้ส่งผลให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต เพราะสัดส่วนของใบหน้าที่ไม่ได้รูปและไม่เป๊ะทำให้ใบหน้าดูไม่สวย ยิ่งปัจจุบันเทรนด์หน้าวีเชฟ แบบดาราเกาหลีกำลังมาแรงมาก ทำให้คนที่มีปัญหาคาง หันมาสนใจเสริมคางกันมากขึ้น แต่ก็มีบางคนที่ไม่อยากผ่าตัด วันนี้เราเลยนำข้อมูลมาฝากจ้า


👇เลือกหัวข้อที่สนใจได้เลย👇

1.ตอบชัดเสริมคางเหมาะกับใคร เสริมแบบไหนดี?

2.คลายสงสัย การเสริมคางมีกี่แบบนะ?

3.การเสริมคางแบบไม่ผ่าตัดทำได้ไหมคะ?

4.หน้าได้สัดส่วนด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง

5.สรุปปัญหาคางสั้นฉีดฟิลเลอร์หรือเสริมคางดี

6.ทำไมต้องเสริมคางและฉีดฟิลเลอร์ที่โซวอน คลินิก

1.ตอบชัดเสริมคางเหมาะกับใคร เสริมแบบไหนดี?

การเสริมคาง คือ การปรับโครงสร้างด้วยการใส่ซิลิโคน ซึ่งจะทำให้ใบหน้าให้ดูเรียวยาวมากขึ้น  โดยส่วนมากคนที่นิยมเสริมคางจะมีปัญหาหน้ากลม คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม มองแล้วดูไม่มีมิติ หน้าดูสั้น ๆ ทำให้เสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตชัวร์ค่ะ โดยหากเสริมคางแล้วจะทำให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้นนั่นเอง โดยการเสริมคางเหมาะกับคนที่มีปัญหาคางทุกแบบ รวมไปถึง คางสั้นวิธีแก้ ก็ใช้วิธีเสริมคางได้เช่นกัน

2.คลายสงสัย การเสริมคางมีกี่แบบนะ?

การเสริมคางด้วยการใส่ซิลิโคนเป็นที่นิยมมากที่สุดในตอนนี้ จะมี 2 เทคนิค คือ กรีดแผลในช่องปาก และแผลนอกช่องปากนะคะ.

แผลใน

ใช้เทคนิคการกรีดตรงร่องเหงือกระหว่างริมฝีปากประมาณ 1-3 เซนติเมตร ข้อดีของการเสริมคางเทคนิคนี้คือมองไม่เห็นแผลเป็นนั่นเองค่ะ เลยเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้คนอื่นมองเห็นแผลผ่าตัดของเราเลือกการเสริมคางแบบนี้เลยค่ะเหมาะมาก แต่ข้อควรระวังของการทำคางแบบแผลในคือการดูแลรักษาความสะอาดให้ดีค่ะเพราะถ้าหากดูแลไม่ดีจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้จ้า

ขั้นตอนการเสริมคางแผลในมีอะไรบ้างนะ?

  1. การ ทำคาง แผลใน คุณหมอจะใช้มีดกรีดตรงคาง  ตั้งแต่ส่วนของเหงือกลงไปจนถึงส่วนกระดูกคางด้านหน้าค่ะ โดยแผลมีความยาว 1 – 3 เซนติเมตร
  2. หมอจะทำการฝังและยึดซิลิโคนลงในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ตรงล็อคคางของคนไข้
  3. เมื่อวางซิลิโคนเสร็จคุณหมอจะเย็บแผลด้วยไหมละลาย เป็นอันเสร็จค่ะ

แผลนอก

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนมีปัญหาคางเบี้ยวเอียงมากกว่าแผลในค่ะเพราะผ่าตัดง่ายกว่า ส่วนคนที่มี คางสั้น คางตัด หรือปัญหาคางอื่น ๆ สามารถทำได้ทั้งการเสริมซิลิโคนแบบ แผลใน แผลนอกเลยค่ะ โดยคุณหมอจะกรีดไปที่บริเวณคางประมาณ 1-3 เซนติเมตร ซึ่งข้อดีของการเสริมคางแผลนอกคือการทำความสะอาดที่ง่ายมาก ๆ นั่นเองค่ะเพราะอยู่นอกช่องปาก จึงทำให้โอกาสการติดเชื้อน้อยกว่าแผลใน

ขั้นตอนการเสริมคางแผลนอกทำยังไงนะ?

1. คุณหมอจะฉีดยาชาที่บริเวณคาง เพื่อทำให้ไม่รู้สึกปวดขณะผ่าตัด  

2. กรีดแผลใต้คาง ความยาว 1-3 เซนติเมตร    

3. นำซิลิโคนใส่ในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้แล้วนั่นเองจ้า

4. คุณหมอเย็บแผลเป็นอันเสร็จค่ะ

การดูแลตัวเองก่อนเสริมคาง

1.สระผมให้สะอาดก่อนมาศัลยกรรมเพราะเราต้องนอนพักฟื้นหลังผ่าตัด

4.งดวิตามินอาหารเสริมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

2.งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

3.งดกินของหมักดองอย่างน้อย 2 สัปดาห์

4.งดทานวิตามินอีและกลุ่มยาแอสไพริน ที่มีผลต่อการเเข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์

5.แจ้งโรคประจำตัวของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการผ่าตัด

6.พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเสริมคางให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่

7.งดการแต่งหน้าบริเวณที่ ทำคาง เพราะจะส่งผลต่อการผ่าตัดเนื่องจากอาจะทำให้ติดเชื้อได้

การดูแลตัวเองหลังเสริมคางแผลนอก

1.แผลนอกให้ใช้คัตตอนบัตชุบน้ำเกลือ ทำความสะอาดบริเวณแผล ตามด้วยเบตาดีน และ ใช้ขี้ผึ้ง เช็ดบริเวณแผล

2.ใช้เจลประคบเย็นตำแหน่งละ 30 วินาที 3 วัน ติดต่อกัน ต่อด้วยประคบอุ่นอีก3 วันโดยเอาเจลแช่ในน้ำอุ่น

3.ห้ามใช้มือเท้าคางเด็ดขาดเพราะอาจทำให้คางเคลื่อนได้ค่ะ

4.นอนพักฟื้น เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จำเป็น อย่างน้อย 2-3 วัน

5.นอนโดยใช้หมอนล็อคคออย่างน้อย 1 เดือน ให้นอนหงาย งดนอนตะแคง เพื่อป้องกันซิลิโคนทะลุ เบี้ยวเอียง

6.งดรับประทานอาหารเผ็ดจัดหรือร้อนจัด อาหารแข็ง 2 สัปดาห์

7.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน

8.งดออกกำลังกายอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจทำให้แผลเกิดการกระทบกระเทือนได้

9.งดการแต่งหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในบริเวณ ที่ ทำคาง เพราะเครื่องสำอาง อาจทำให้แผลติดเชื้อ

การดูแลตัวเองหลังเสริมคางแผลใน

1.กรณีแผลใน ให้ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือบ้วนปากอย่างสม่ำเสมอ

2.ใช้เจลประคบเย็นตำแหน่งละ 30 วินาที 3 วัน ติดต่อกัน ต่อด้วยประคบอุ่นอีก3 วันโดยเอาเจลแช่ในน้ำอุ่น

3.ห้ามใช้มือเท้าคางเด็ดขาดเพราะอาจทำให้คางเคลื่อนได้ค่ะ

4.นอนพักฟื้น เคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จำเป็น อย่างน้อย 2-3 วัน

5.นอนโดยใช้หมอนล็อคคออย่างน้อย 1 เดือน ให้นอนหงาย งดนอนตะแคง เพื่อป้องกันซิลิโคนทะลุ เบี้ยวเอียง

6.กรณี ทำคาง แผลใน ให้ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำเกลือบ้วนปากอย่างสม่ำเสมอ

7.งดรับประทานอาหารเผ็ดจัดหรือร้อนจัด อาหารแข็ง 2 สัปดาห์

8.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน

9.งดออกกำลังกายอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจทำให้แผลเกิดการกระทบกระเทือนได้

3.การเสริมคางแบบไม่ผ่าตัดทำได้ไหมนะ?

บางคนอยากมีคางสวย ๆ ใบหน้าได้รูปแต่ไม่อยากทำคางมีวิธีไหนแก้ปัญหา คางสั้น คางตัด คางสั้น วิธีแก้ ก็มีแน่นอนค่ะ นั่นคือการฉีดด้วยฟิลเลอร์นั่นเองค่ะ เพราะนอกจากจะไม่ต้องผ่าตัดแล้ว ยังไม่ต้องพักฟื้นด้วยค่ะ แถมยังเห็นผลทันทีหลังฉีดเลยค่ะปังเว่อร์

4.หน้าได้สัดส่วนด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง

การ ฉีดคาง คือ การฉีดสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า ไฮยาลูโรนิค แอซิด( Hyaluronic Acid ) ซึ่งเจ้าสารนี้มีคุณสมบัติเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปบนใบหน้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที โดยผลลัพธ์ที่ได้คือช่วยปรับรูปหน้าให้ดูละมุน จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีปัญหาคางที่อยากหน้าเรียวเป็นธรรมชาติและต้องการใบหน้าที่ได้ สัดส่วนมากขึ้น ซึ่งระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะสลายหมดจะขึ้นกับแต่ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เราเลือกฉีด โดยหลังจากเริ่มสลายไปเราสามารถเติมเพิ่มได้เรื่อย ๆ ตามความต้องการ แต่อย่างไรก็ตามต้องไปปรึกษาหมอก่อนว่าถึงเวลาฉีดรึยังค่ะ

5.ฟิลเลอร์ไหนเหมาะกับการฉีดคาง?

ฟิลเลอร์ที่เหมาะการ ฉีดคาง มีอยู่ 3 รุ่นหลัก ๆ คือ

BELOTERO FILLER

ฟิลเลอร์สัญชาติสวิตเซอร์เเลนด์ กล่องสีม่วง Colorful Filler VOLUME ตามชื่อเลยค่ะเหมาะสำหรับเติมวอลลุ่มให้หน้าเนื้อ ฟิลเลอร์ belotero รุ่นนี้มีความยืดหยุ่นและคงตัว มีจุดเด่นคือสามารถแก้ปัญหาใบหน้าตอบ จากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูก และสามารถฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึกได้เช่นกัน เพื่อให้โครงสร้างใบหน้าได้สัดส่วน ดูเด็กมากขึ้นเลยนิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้าโดยการฉีด ฟิลเลอร์ขมับคาง โหนกแก้มและแก้มส้มจ้า


FILLER JUVEDERM


Juvederm Voluma  เป็นที่นิยมมากเป็นฟิลเลอร์สัญชาติสหรัฐอเมริกา โดยเจ้ารุ่นนี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความเเน่น เรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมเต็มทั้ง คางสั้น คางตัด ร่องแก้ม ขมับตอบ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่บวมช้ำหลังฉีดและอยู่ได้นานถึง 2 ปี   มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่น พัฒนาด้วยเทคโนโลยี hylacross ให้ฟิลเลอร์เป็นเนื้อเจลมีความอุ้มน้ำได้ดี เนื้อละเอียดมีความยืดหยุ่นสูง ผลลัพธ์หลังฉีดจะได้ความเรียบเนียนกลืนเข้ากับผิวเป็นอย่างมาก เเละผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA เเละ Thai FDA โดยสามารถสลายออกเองได้ 100% ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายเเน่นอน 

FILLER NEURAMIS

รุ่น deep ฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลีได้การรับรองจาก US FDA เเละ Thai FDA ถือเป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูงเหมาะสำหรับการเติมเต็ม คาง ร่องแก้ม ขมับตอบ ผลลัพธ์หลังฉีดใบหน้าจะดูละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เเข็งหรือเป็นก้อนเเน่นอน เเละอยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือนขึ้นอยู่กับการดูแลของเรานั่นเองค่ะ

การดูแลตัวเองก่อนฉีดฟิลเลอร์

1.ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ( NSAIDS)ได้แก่ ไอบูโพรเฟน(Ibruprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ

2.งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์

3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีดฟิลเลอร์

4.สุขภาพร่างกายต้องอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่

5.วันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบหมอ

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

1.งดการออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรงเช่น การอบซาวน่า, แช่น้ำอุ่น การนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลา 2 สัปดาห์

2.งดการบีบ นวด กด ใบหน้าแรงๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไปจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้ โดยการปั้นฟิลเลอร์นั้นจะมีเพียงแพทย์ที่ทำการฉีดเป็นผู้ปั้นทรงให้ได้เท่านั้น

3.ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 2 สัปดาห์

4.ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น 

5.โดยเฉพาะใน 3 วันแรกหลังฉีดไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด

6. สรุปปัญหาคางสั้น เสริมคางหรือฉีดฟิลเลอร์ดี?

โดยความจริงแล้วคน คางสั้น คางตัด คางบุ๋ม สามารถแก้ไขได้ทั้ง 2 วิธี ทั้งการเสริมคาง และ การฉีดฟิลเลอร์เลยค่ะเพราะไม่ว่าแบบไหนก็ทำให้หน้าดูสมส่วนมากขึ้นทั้ง 2 วิธี ถ้าหากคางไม่สั้นมากก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ซึงอย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับว่าสั้นมาก หรือ สั้นน้อย หากสั้นมาก ๆ อยากให้ยาวมากกว่า 1 เซนติเมตรควรเลือกเป็นการเสริมคางจะตอบโจทย์กว่าเพราะเสริมครั้งเดียวจบ และฟิลเลอร์ไม่ควรฉีดเกิน 1 เซนติเมตรและอยู่ได้ไม่ถาวร ต้องคอยเติมเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากบางคนไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนาน ๆ ขอแนะนำเป็นการฉีดฟิลเลอร์ค่ะ คลายสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า คางสั้นแก้ยังไง  

7.ทำไมต้องเสริมคางและฉีดฟิลเลอร์ที่โซวอน คลินิก

คนมีปัญหาคางทุกแบบทั้ง คางสั้น คางตัด คางถอยต้องมาด่วนเลยค่ะ เพราะคุณหมอใจดีมีประสบการณ์แน่น แถมยังมีรางวัลการันตีผลงานมากมาย ด้วยเทคนิคการที่แม่นยำ และการประเมินรูปหน้าก่อนทำ และออกแบบเคสต่อเคส นอกจากและมีเทคนิคพิเศษคือ Ultra lock ที่จะช่วยให้ซิลิโคนแนบไปกับคางของเรา ที่สำคัญคือออกแบบให้พอดีกับใบหน้า คางไม่ใหญ่กว่าหน้าชัวร์ ส่วนเรื่องฟิลเลอร์ คลินิกเราไม่อัดฉีดฟิลเลอร์เยอะเกินไปจึงไม่ต้องกลัวเลยค่ะว่าหน้าจะดูแข็งไม่เป็น ธรรมชาติและคุณหมอมีประสบการณ์มายาวนาน มีความเชี่ยวชาญจริง มีเทคนิคการลงเข็มที่แม่นยำ จึงสวยละมุนชัวร์มั่นใจได้เลยค่ะ นอกจากนี้คลินิกเรานำเข้าแต่ของแท้และผ่านอย. จึงหมดห่วงเรื่องของปลอมได้เลยจ้า

มั่นใจ ปลอดภัย ด้วยรางวัลการันตีแน่นแน่น

สำหรับรางวัลการ ทำคาง เราได้รางวัลจาก Wongnai รวม “คลินิกเสริมคาง” ทำแล้วเหมือนเกิดมาหน้าเรียว ราคาไม่แรง! ด้วยค่ะ ยังไม่หมดนะคะเรายังได้รางวัลจาก Wongnai Beauty รวมคลินิกเสริมคาง ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนฟิลเลอร์เราได้รางวัลเช่นกันจากบริษัท MERZ AESTHETIC บริษัทที่นำเข้าฟิลเลอร์ belotero ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่นำเข้าเครื่องอัลเทอร่าค่ะ โดยได้รางวัล 2020 THE GOLD AWARD FOR MERZ FILLER รางวัลที่ผู้เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์ belotero มากประจำปี 2020  จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand และรวมไปถึงรางวัล 2021 THE PLATINUM AWARD FOR MERZ FILLER ได้รับรางวัล ติด 1 ใน 11 คลินิกปรับรูปหน้าของประเทศไทยที่มีผู้เข้าฉีดฟิลเลอร์ belotero มาก ประจำปี 2021 จากบริษัท Merz Aesthetics Thailand ด้วยจ้า

เป็นอย่างไรกันบ้างคะคลายสงสัยกันหรือยังเอ่ยว่า คางสั้นแก้ยังไง สรุปได้ว่าสามารถแก้ได้ทั้ง 2 วิธีทั้งเสริมคางและฉีดฟิลเลอร์นั่นเองค่ะแล้วแต่ความพึงพอใจของคนไข้เลยว่าชอบแบบไหน ถ้าทำครั้งเดียวจบก็เสริมคาง แต่ถ้าไม่อยากผ่าตัดก็ฉีดฟิลเลอร์เอา ไม่ว่าวิธีไหนก็ได้ผลลัพธ์ปังทั้งคู่

โปรโมชั่นเสริมคางและฉีดฟิลเลอร์ที่ต้องตำ

โปรโมชั่นเสริมคาง โปรโมชั่นเสริมคาง สุดคุ้ม!

โปรโมชั่นฟิลเลอร์คาง โปรโมชั่นฟิลเลอร์ ลดเกินครึ่ง!

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : 

Inbox FB. : 

Youtube :

Line Official :(@sowonclinic)

Instagram :

Hotline : 097-207-3296 , 097-180-7020 ,

02-086-3558 , 02-082-3559


อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม📌