หญิงสาวชายหนุ่มที่รักสวยรักงามในปัจจุบัน คงไม่มีใครไม่รู้จักการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งคือการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปบนกล้ามเนื้อที่มีการหดเกร็ง เพื่อช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าและลดเลือนริ้วรอย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน หน้าใหญ่ ใบหน้าไม่เท่ากัน และมีริ้วรอย ทำให้หน้าแลดูมีอายุก่อนกว่าวัย ซึ่งโบท็อกซ์จะเข้าไปช่วยในการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ในบริเวณต่าง ๆ โดยสามารถฉีดได้ในหลายบริเวณ
การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า และช่วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้
- ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิว
ด้วยคุณสมบัติของสารโบท็อกซ์ที่จะช่วยส่งผลหรือรบกวนการทำงานของระบบประสาท หรือช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจึงทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง ผิวหนังกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง ส่งผลทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัยยิ่งขึ้น - ปรับรูปหน้าให้เรียว
เมื่อกล้ามเนื้อใช้งานได้น้อยลง หรือไม่ค่อยมีการขยับเขยื้อน กล้ามเนื้อก็จะมีขนาดเล็กลง โดยจะนิยมฉีด Botox เพื่อลดกราม หรือแนวขากรรไกร ทำให้ใบหน้าดูเรียวและเล็กลง รวมทั้งยังสามารถช่วยลดกล้ามเนื้อแขนและลดน่องได้ - ฟื้นฟูผิว
การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้รูขุมขนหดเล็กลง และต่อมไขมันมีขนาดเล็กลงด้วย โดยการฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อและต่อมไขมัน ส่งผลให้ผิวมันลดลง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน สดใส และเปล่งปลั่ง
บริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย
- กราม ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์กราม เหมาะกับผู้ที่มีกรามใหญ่ เหลี่ยม หรือกรามที่ยื่นออกมา ช่วยให้กรอบหน้าและใบหน้าดูเรียว กรามชัดขึ้น
- กรอบหน้า โดยการฉีดโบท็อกซ์กรอบหน้า เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ให้ใบหน้าโดยรวมดูชัดขึ้น
- ริ้วรอย การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยระหว่างคิ้ว เพื่อให้ใบหน้าดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
ทำไมต้องเลือกฉีดโบท็อกซ์ ที่ SOWON Clinic ?
เพราะความสวยของคุณคือเรื่องสำคัญ SOWON Clinic จึงพร้อมมอบประสบการณ์การดูแลผิวหน้าที่เหนือกว่า ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้าและผิวพรรณ ที่จะช่วยแก้ไขรูปหน้าได้อย่างตรงจุด โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงหลากหลายแบรนด์ ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เพื่อให้สามารถมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ผ่านการออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและประสบการณ์สูง ที่พร้อมให้การประเมินและเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ริ้วรอยของคุณลดเลือนลง ผิวกระชับ เต่งตึง พร้อมช่วยลดกรามให้เล็กลง และปรับกรอบหน้าให้คมชัดที่สุด และที่สำคัญ SOWON clinic ยังมีเทคนิคเฉพาะในการปรับรูปหน้าด้วย Botox เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ ไม่ตึงโบ ! จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม หรือการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ก็สามารถทำได้ในราคาสมเหตุสมผล ที่ SOWON Clinic !
ขั้นตอนการฉีด BOTOX ให้ได้ผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่แข็ง
1. ทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย
2. ประคบน้ำแข็งบริเวณที่จะทำการฉีดโบท็อกซ์
3. จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดโบท็อกซ์เพื่อแก้ไขปัญหาของคนไข้อย่างเบามือ
ระยะเวลาในการทำ
ระยะเวลาในการฉีดโบท็อกซ์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น บริเวณที่ต้องการฉีด หรือปริมาณสารโบทูลินัม ท็อกซิน ที่ฉีดเข้าไป ซึ่งล้วนส่งผลให้ระยะเวลาแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 20-30 นาที
การฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม ?
การฉีดโบท็อกซ์ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา รวมทั้งเป็นสารที่มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งตัวยาโบท็อกซ์นี้จะสามารถสลายไปได้เอง 100% โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ในร่างกาย แต่จะต้องฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางและมีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อการใช้เทคนิคที่ถูกต้อง รวมถึงการประเมินตัวยาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละบุคคล ก็จะทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
ราคาของโบท็อกซ์ที่ SOWON Clinic
การเลือกใช้โบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ร่วมกับการพิจารณาของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย หรือฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ก็จะมีราคาขึ้นอยู่กับปริมาณยูนิตที่ใช้ ซึ่งที่ SOWON Clinuc มียี่ห้อและราคาของโบท็อกซ์ ดังต่อไปนี้
- AESTOX ราคาพิเศษ 6,999 บาท จาก 12,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
- NABOTA ราคาพิเศษ 8,999 บาท จาก 15,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
- XEOMIN ราคาพิเศษ 19,900 บาท จาก 34,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
- ALLERGAN ราคาพิเศษ 19,900 บาท จาก 34,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
โบท็อกซ์เเต่ละยี่ห้อมีข้อดีต่างกันอย่างไร?
ปัจจุบันโบท็อกซ์มีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งบริษัทและประเทศที่ผลิต เช่น ประเทศเกาหลี ประเทศเยอรมัน ประเทศอเมริกา รวมไปถึงความบริสุทธิ์ที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาและระยะเวลาในการออกฤทธิ์ โดยมียี่ห้อของโบท็อกซ์ยอดนิยมที่หลายคนเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่รู้ถึงความแตกต่างอย่างแน่ชัดของแต่ละยี่ห้อ ดังนี้
Allergan
เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์แรกที่มีการนำสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin type A) มาใช้ในวงการความงาม เพื่อลดริ้วรอยต่าง ๆ จึงถือว่าเป็นต้นแบบของโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ รวมทั้งเป็นแบรนด์แรกของโลกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา (US FDA) และยังเป็นตัวแรกที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศไทย (TH FDA) อีกด้วย
คุณสมบัติเด่นของโบท็อกซ์ Allergan คือเป็นตัวยาที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% มีโอกาสดื้อยาน้อยมาก โดยตัวยาจะมีโมเลกุลใหญ่ ทำให้มีการกระจายตัวได้คงที่ ไม่กระจายตัวเป็นวงกว้าง จึงง่ายต่อการรักษาเฉพาะจุดได้ดี และทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ มีความเป็นธรรมชาติ เห็นผลได้รวดเร็ว จึงถือเป็นโบท็อกซ์ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากที่สุด รวมถึงให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้ยาวนาน
Xeomin
โบท็อกซ์จากเยอรมัน ที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีคุณภาพไม่เเพ้เเบรนด์อื่น เนื่องจากมีความคล้าย Allergan ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ ทำให้เห็นผลชัดเจน
Xeomin นับได้ว่าเป็นโบท็อกซ์อีกหนึ่งชนิดที่มีความบริสุทธิ์และอ่อนโยนมากที่สุด ทำให้ผลลัพธ์หน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 เดือน
Botulax
เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. เป็นสารโปรตีนบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดมาจากแบคทีเรียชื่อว่า “Clostridium Botulinum” ที่มีความโดดเด่นด้านความบริสุทธิ์และอ่อนโยนต่อผิวหนังเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศเกาหลีใต้ (KFDA) ว่ามีความปลอดภัย ซึ่ง Botox Botulax ได้มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เทียบเท่ากับ Botox จากประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์ของตัวยาและอ่อนโยน ตัวยากระจายตัวได้กว้าง ออกฤทธิ์ได้เร็ว นิยมฉีดลดกราม เพื่อทำให้หน้าเรียวเล็ก เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน และใช้ลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หน้าใส ระยะเวลาของผลลัพธ์จะอยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกาเล็กน้อย แต่มีราคาที่ย่อมเยา และให้ผลลัพธ์ที่ดี
Aestox
อีกหนึ่งยี่ห้อโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. และมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกกฎหมายโดยบริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด พร้อมได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้ (KFDA) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศไทย (TH FDA)
คุณสมบัติเด่นของโบท็อกซ์ Aestox คือจะมีตัวยาที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% และมีโครงสร้างโมเลกุลเทียบเท่ากับโบท็อกซ์อเมริกา Allergan ซึ่งจะมีการกระจายตัวแคบ รักษาได้อย่างตรงจุด มีความแม่นยำ อ่อนโยนและออกฤทธิ์เร็วใกล้เคียงกับโบท็อกซ์อเมริกา แต่จะคงผลลัพธ์ในระยะเวลาที่สั้นกว่า นิยมใช้ฉีดเพื่อลดกราม ปรับรูปหน้าให้วีเชฟ และลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า
ตัวเลือกยกกระชับ ! โบท็อกซ์ FACE LIFT VS HIFU
หลายคนคงกำลังลังเลใจว่า จะเลือกทำ HIFU หรือฉีด Lifting ใบหน้าด้วย Botox ดี เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้มีฤทธิ์ในการยกกระชับเหมือนกัน แต่แน่นอนว่าให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง ซึ่งจะต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เหมาะกับใคร มาทำความเข้าใจพร้อมกันได้เลย
- การยกกระชับ HIFU ลงลึกกว่าโบท็อกซ์ Face Lift จึงทำให้มีแรงดึงใบหน้ามากกว่า
HIFU เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งเป็นพลังงานที่ลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น SMAS จึงช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างล้ำลึก ทำให้มีแรงดึงได้มากกว่าการฉีดโบท็อกซ์กรอบหน้า ซึ่งจะช่วยยกหน้าแค่เพียงชั้นผิวตื้น ๆ เท่านั้น - HIFU กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่โบท็อกซ์ทำให้ผิวชั้นบนตึงขึ้น
เนื่องจาก HIFU เป็นการยิงพลังงานไปใต้ผิวหนังจึงสามารถช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งและแน่นฟูขึ้น อีกทั้ง HIFU สามารถยิงลงบนผิวหนังได้ทั่วใบหน้า ซึ่งโบท็อกซ์จะไม่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่จะสามารถดึงผิวหน้าในบริเวณกรอบหน้าได้ - ผลลัพธ์ มีความแตกต่างกัน
HIFU จะสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล โดยสามารถทำซ้ำได้หากมีความหย่อนคล้อยสูง ส่วนผลลัพธ์ของการฉีด Lifting ใบหน้าด้วย Botox จะอยู่ได้สั้นกว่า HIFU เพราะโบท็อกซ์ Face Lift ทำงานในชั้นที่ตื้นกว่า - ค่าใช้จ่าย
การฉีดโบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้ามีราคาถูกกว่าการทำ HIFU จึงทำให้การฉีดโบท็อกซ์เป็นที่นิยมมากว่า
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
- ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
- งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากแต่ละท่านอาจมีความต้องการที่ต่างกันออกไป เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ
- หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอาง หรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์
- งดนอนราบหลังฉีดโบท็อกซ์ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
- งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการหน้าแดง เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างหนัก อบซาวน่า แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะเข้าไปสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
- กรณีฉีด Botox ลดกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที-1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
- หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยจะมีรอยแดงจากเข็มและรอยนูนจากการฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดการทำทรีตเมนต์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แต่สามารถทาครีมได้ตามปกติ