แก้จมูกที่ไหนดี บอกลาจมูกพังให้กลับมาปังกว่าเดิม !

จมูกพัง ปลายใส ใกล้ทะลุ ปัญหาแบบนี้จะต้องแก้ไขอย่างไรดี ? รวมทุกคำตอบของปัญหาจมูกพัง ตั้งแต่สัญญาณบ่งชี้ เช่น ปลายใส ซิลิโคนเบี้ยว จมูกเรืองแสง ไปจนถึงปลายทะลุ พร้อมแนะนำวิธีการเลือกคลินิก จบปัญหาแก้จมูกที่ไหนดี ราคาไม่แพง ด้วยไกด์ฉบับสมบูรณ์จาก SOWON Clinic !

ดูรีวิวเสริมจมูก Sowon clinic ได้ที่นี่ : ⬇⬇
https://sowongroup.com/review_surgery-nose_promotion

10 สัญญาณจมูกพัง อันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์

1.  ซิลิโคนเบี้ยว บิดเอียง

ซิลิโคนที่เคยวางตำแหน่งไว้อย่างสวยงามตรงกลางจมูก แต่กลับเกิดการเบี้ยว บิดเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ถือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยหลังเสริมจมูก สาเหตุหลักที่ซิลิโคนมีการบิด เบี้ยว อาจเกิดจากเทคนิคการผ่าตัดที่ไม่แม่นยำ หรือการเคลื่อนไหวของซิลิโคนจากแรงกดดันในช่วงพักฟื้น สังเกตได้ง่ายว่าจมูกจะไม่สมมาตรหรือดูผิดรูป หากมีอาการบวมร่วมด้วยควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขบเอียงจากอีกข้างไปอีกข้างหนึ่ง คือ ซิลิโคนมีการบิด เบี้ยว คด หรือเอียง หลังการเสริมจมูกนั่นเอง หรือบางคนอาจจะมีอาการบวมด้วย

2.  ปลายจมูกแดงใส

หากปลายจมูกมีลักษณะผิวบางจนเห็นเป็นสีแดงใส หรือในบางกรณีถึงขั้นเห็นซิลิโคนที่อยู่ข้างใน นี่คือสัญญาณอาการจมูกพังที่ไม่ควรมองข้าม ปัญหานี้มักเกิดจากการที่ผิวหนังปลายจมูกบางลงจนไม่สามารถรองรับซิลิโคนได้เพียงพอ การปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ซิลิโคนทะลุ ดังนั้น หากพบลักษณะดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน

3.  ซิลิโคนลอย มองเห็นชัด

ในบางเคสที่ซิลิโคนเริ่มลอยหรือมองเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะเวลาจับหรือบิดจมูก ปลายจมูกอาจบางลงจนเผยให้เห็นขอบซิลิโคนอย่างชัดเจน ปัญหานี้มักเกิดจากการที่ผิวหนังไม่สามารถยึดซิลิโคนไว้ได้ดีพอ หากพบลักษณะเช่นนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการทะลุและการติดเชื้อ

4.  จมูกเจ็บแปลบ มีอาการอักเสบ

อาการเจ็บแปลบ แดง บวม หรือมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกมาจากจมูก อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อหลังผ่าตัด ในบางกรณีที่รุนแรง จมูกอาจเปลี่ยนเป็นสีดำหรือเกิดการเน่า ซึ่งอันตรายถึงขั้นทำให้เนื้อจมูกหลุด หากพบอาการจมูกพังเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาและป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อ

5.  ปัญหาจากการฉีดจมูก

การฉีดสารต่าง ๆ เพื่อปรับทรงจมูกอาจทำให้จมูกพัง ตามมาด้วยปัญหาอีกมากมาย เช่น จมูกเสียทรง ผิดรูป หรือเกิดพังผืดเกาะรอบบริเวณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการฉีดสารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือทำโดยบุคลากรที่ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและต้องการการแก้ไขที่ซับซ้อน

6.  ต้องการปรับทรงใหม่

หลายคนอาจรู้สึกไม่พอใจกับทรงจมูกหลังการเสริม แม้ว่าจะดูดีในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจพบปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ เช่น ทรงไม่เข้ากับรูปหน้า หรือทรงที่เคยเสริมไว้นานแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ การมองหาคลินิกแก้จมูก เพื่อปรับทรงใหม่จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

7.  ซิลิโคนทะลุ!

อีกปัญหาจมูกพังที่พบบ่อย คืออาการที่ซิลิโคนทะลุออกมา โดยส่วนใหญ่จะเห็นเป็นแท่งสีขาวโผล่จากบริเวณระหว่างคิ้วหรือปลายจมูก การปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อร้ายแรง ดังนั้น หากพบสัญญาณนี้ ควรหลีกเลี่ยงการจับหรือแตะต้องจมูกและรีบพบแพทย์ทันที

8.  ปลายจมูกสะท้อนแสง

อาการจมูกพัง ปลายจมูกมันวาวหรือสะท้อนแสงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุ สาเหตุเกิดจากการที่ซิลิโคนกดดันผิวหนังบริเวณปลายจมูกจนบางลง การสังเกตอาการนี้และปรึกษาแพทย์แต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันปัญหาในระยะยาว

9. มีก้อนตะปุ่มตะป่ำบนสันจมูก

หากพบว่ามีก้อนตะปุ่มตะป่ำบริเวณสันจมูก อาจเกิดจากการที่ซิลิโคนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีหินปูนหรือพังผืดเกาะจนทำให้เกิดความไม่เรียบเนียนของผิวจมูก หากมีอาการเจ็บร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและแก้ไข

10. มีรอยบุ๋มหรือร่องที่จมูก

รอยบุ๋มหรือร่องที่ปรากฏบริเวณปลายจมูก มักเกิดจากการที่ซิลิโคนกดทับเนื้อเยื่อผิวหนังจนเกิดพังผืดดึงรั้งผิว สังเกตได้จากการที่เนื้อจมูกดูยึดติดกับซิลิโคนจนไม่เป็นธรรมชาติ หากพบอาการจมูกพังลักษณะนี้ การแก้ไขจะช่วยให้จมูกกลับมาดูเรียบเนียนและสวยงามยิ่งขึ้น

แก้จมูกเจ็บไหม ?

หากเป็นการแก้ไขปัญหา หลังเกิดอาการจมูกพัง สามารถตอบได้ตามตรงว่าอาจมี “เจ็บบ้างตามกรณี” ยกตัวอย่าง ในกรณีที่จมูกไม่มีการอักเสบหรือติดเชื้อน้อย สามารถแก้ได้เลย หลังทำจมูกก็จะไม่เจ็บมากเท่าเคสที่จมูกมีการอักเสบหรือจมูกติดเชื้อรุนแรง 

แต่สำหรับเคสที่จมูกมีการติดเชื้อ ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ถอดซิลิโคนออกแล้วพักจมูกให้หายติดเชื้อก่อนประมาณ 3 เดือน แล้วค่อยทำการแก้ไขจมูกใหม่ ทำให้อาจเจ็บหลายรอบ แต่ถ้าเป็นความเจ็บระหว่างการผ่าตัด สำหรับคนที่กลัวเจ็บ บางคลินิกสามารถขอคุณหมอให้ใช้ยาสลบได้ ทั้งนี้แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อที่เราจะได้ผ่าตัดอย่างปลอดภัย และไม่เจ็บเกินไป

แนะนำการเลือกคลินิก เลือกแก้จมูกที่ไหนดี

1. ตรวจสอบคุณหมอให้ละเอียดยิบ

ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกแก้จมูก คำถามแรกที่ต้องตอบคือ “หมอจริงหรือหมอปลอม ?” โดยสามารถค้นหาคำตอบได้จากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากแพทยสภา เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเจอแพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจทำให้จมูกพังได้ 

ตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากแพทยสภา : https://www.tmc.or.th/check_md/

2. คลินิกได้รับใบอนุญาต สะอาดปลอดภัย

แม้แพทย์จะมีคุณสมบัติเพียงพอ แต่หากคลินิกแก้จมูกไม่ได้มาตรฐานก็อาจเป็นปัญหาได้ แล้วจะแก้จมูกที่ไหนดี ? คำตอบคือให้เลือกสถานที่ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง มีมาตรฐานสากล และสะอาดปลอดเชื้อ ตั้งแต่บริเวณรอรับบริการไปจนถึงห้องผ่าตัด เพราะความสะอาดเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพของอุปกรณ์และการดูแลคนไข้

3. แพทย์ให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด ไม่หลอกขาย

แพทย์ผู้ให้คำปรึกษาควรมีความเชี่ยวชาญ ตอบคำถามตรงประเด็น และสามารถอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด หากคำแนะนำไม่ชัดเจนหรือคลินิกพยายามขายบริการที่ไม่เกี่ยวข้อง อาจเป็นสัญญาณให้เราพิจารณาเลือกสถานที่ใหม่

4. ซิลิโคนเกรดดี มีคุณภาพ

เลือกซิลิโคนเกรดพรีเมียมที่นิ่มและบิดได้ เพื่อให้จมูกดูเป็นธรรมชาติและลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคต ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่คลินิกใช้ เช่น แหล่งผลิตและมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนตัดสินใจใช้บริการ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องหาคลินิกแก้จมูกซ้ำบ่อย ๆ

5. รีวิวเยอะเชื่อถือได้

หาดูรีวิวเคสจริงที่คล้ายกับความต้องการของเราให้มากที่สุด เลือกรีวิวที่ไม่ผ่านการแต่งภาพหรือกราฟิกเกินจริง และสามารถขอดูรีวิวเพิ่มเติมจากคลินิกได้โดยตรง หากคลินิกไม่มีความโปร่งใสในการให้ข้อมูล ควรพิจารณาเลือกสถานที่อื่น

6. มีรับประกันหลังทำ

การรับประกันหลังทำ เช่น รับประกัน 6 เดือนถึง 1 ปี แสดงถึงความมั่นใจและความรับผิดชอบของคลินิกต่อผลลัพธ์ หากคุณยังสงสัยว่า “แก้จมูกที่ไหนดี ราคาไม่แพง ?” คลินิกที่ผ่านเงื่อนไขข้างต้นทั้งหมดคือคำตอบที่ดีที่สุด การดูแลคนไข้ทั้งก่อนและหลังการแก้จมูกเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจในผลลัพธ์และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

วิธีการเตรียมตัวก่อนการแก้จมูก

1)  ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัด ต้องงดน้ำ งดอาหารก่อน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ป้องกันไม่ให้สำลักอาหารระหว่างที่หมอกำลังทำจมูกให้

2) ใครมีโรคประจำตัว และทานยาตัวไหนอยู่ จำข้อนี้ให้ขึ้นใจ เพราะต้องแจ้งแพทย์ก่อนการผ่าตัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง

3) งดยาประเภทแอสไพริน และ NSAIDs ไม่งั้นเลือดไหลหมดตัวแน่ เพราะตัวยาอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ

4) งดยาวิตามิน และอาหารเสริม อย่างต่ำ 1 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะน้องตัวนี้เก่งมากเรื่องกระตุ้นให้เลือดไหลเวียน อาจทำให้เลือดหยุดไหลยากในระหว่างการผ่าตัด

5) งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นและคีลอยด์

6) งดแต่งหน้า อยากสวยเราเข้าใจ แต่ต้องเว้นวันผ่าตัด 1 วันก่อน ไม่อย่างนั้นแผลติดเชื้อเพราะแผลไม่สะอาดแน่นอน

 อ่านวิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกได้ที่นี่

วิธีดูแลหลังการแก้จมูก

1) ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ

2) ประคบเย็น เพื่อช่วยไม่ให้จมูกบวม หรือช้ำเกินไป

3) ไอเทมหมอนรองคอต้องมีนะ หรือควรนอนให้หัวสูง ไม่นอนตะแคง หรือนอนหงาย เดี๋ยวจมูกพัง

4) ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ แต่ห้ามโดนน้ำ ห้ามแต่งหน้าหลังเสริมจมูก เพราะแผลอาจติดเชื้อได้

5) อย่าลืมนัดสำคัญกับคุณหมอ เพื่อติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ

  อ่านวิธีการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกได้ที่นี่ 

ปัญหาหลังแก้จมูกมีอะไรบ้าง ?

• บวมช้ำนาน
• แผลหายช้า
• มีอาการอักเสบ
• อาจเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์

แนะนำ : การแก้จมูกอาจทำให้เกิดปัญหาบวมช้ำนาน แผลหายช้า หรืออักเสบเพิ่มขึ้น และบางคนอาจเกิดคีลอยด์หรือแผลเป็นได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาต่าง ๆ ที่มีจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคของแพทย์และร่างกายของคนไข้ แต่เราสามารถหาตัวช่วยเสริมอย่างอาหารเสริมที่ลดการเกิดแผลเป็น และลดการบวมช้ำได้

ทำไมต้องแก้จมูกที่ SOWON Clinic ?

แก้จมูกที่ไหนดี ? ขอแนะนำ SOWON Clinic ซึ่งมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมจมูก ในราคาที่เป็นมิตร พร้อมให้คำปรึกษาและวิเคราะห์โครงสร้างจมูก เพื่อเสริมให้ดูดีและตรงกับปัญหาจมูกของแต่ละคน ทีมแพทย์ของเราจะใช้เทคนิค Ultra Lock ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ SOWON Clinic โดยคุณหมอจะเหลาซิลิโคนตามเคสเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกแต่ละบุคคล และวางซิลิโคนเพื่อให้แนบสนิทกับฐานจมูก ทำให้การแก้ไขจมูกที่ SOWON Clinic มีประสิทธิภาพและตรงจุด

หลายคนอาจสงสัยว่าอาการจมูกของตัวเองเข้ากับปัญหาไหนบ้าง หรือได้รับอะไรติดตัวกลับไปบ้าง หลังจากอ่านบทความนี้ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปแก้จมูกทันที ! หากมีคำถามเกี่ยวกับการแก้จมูก สามารถทักแชตมาพูดคุยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทาง  LINE: @sowonclinic 

คำถามที่พบบ่อย

Q: แก้จมูกเจ็บมากหรือไม่ ?

A: การแก้จมูกอาจมีความรู้สึกเจ็บบ้างในช่วงแรกหลังการผ่าตัด เนื่องจากเป็นการแก้ไขโครงสร้างจมูกใหม่ แต่อาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงภายในไม่กี่วัน โดยแพทย์จะให้คำแนะนำเรื่องการดูแลหลังผ่าตัดเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ เช่น การประคบเย็น และการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง

Q: ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน ?

A: ระยะเวลาการพักฟื้นหลังการแก้จมูกโดยทั่วไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการทำศัลยกรรม แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอในช่วงแรกและหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เพื่อให้แผลฟื้นตัวดี

Q: ระยะเวลาการรับประกันจมูกนานแค่ไหน ?

A: โดยปกติระยะเวลาการรับประกันผลงานหลังการแก้จมูกทั่วไปจะมีระยะเวลา 1 ปี หากเกิดปัญหาหลังจากทำศัลยกรรม เช่น รูปทรงจมูกไม่เข้าที่หรือมีอาการผิดปกติ แพทย์สามารถปรับแก้ให้ได้ภายในระยะเวลานี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

Q: ผลลัพธ์ของการแก้จมูกจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อไร ?

A: ผลลัพธ์ของการแก้จมูกจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนเมื่อผ่านไปประมาณ 3-6 เดือนหลังการทำศัลยกรรม โดยในช่วงแรกอาจมีอาการบวมช้ำอยู่บ้าง ซึ่งจะค่อย ๆ ลดลงและเห็นรูปทรงจมูกใหม่ที่เป็นธรรมชาติขึ้นในระยะเวลานี้

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เสริมจมูก