ulthera กับ ultraformer III เชื่อว่าหลายคนต้องคุ้นหู 2 เครื่องนี้กันแน่นอน เพราะเป็นเครื่องยกกระชับที่ถูกเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยครั้ง เพราะมีหลักการทำงานเหมือนกัน คือ ทำงานด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ สามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS เป็นชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว ชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับ หรือผ่าตัดดึงหน้า ค่ะ และยังเด่นเรื่องยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน แต่อย่างไรทุกคนก็สงสัยกันใช่ไหมคะว่า แล้วผลลัพธ์ต่างกันไหม? เห็นผลนานเท่าไร? วันนี้ SOWON Clinic จะมาไขข้อข้องใจให้ค่ะ
1. ultraformer III คืออะไร
ultraformer III หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรารู้จักก็คือ hifu (Hight intensity focus ultrasound Macrofocus) เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้น เพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นยกกระชับขึ้น และดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ในขณะที่การผ่าตัดดึงหน้าไม่สามารถทำได้อีกด้วยค่ะ
2. ulthera คืออะไร
เครื่องอัลเทอร่าก็มีหลักการทำงานด้วยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เหมือนกับ Ultraformer III ค่ะ แต่อัลเทอร่าจะมีขนาดจุดโฟกัสของพลังงานที่ใหญ่กว่า ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า และมีเทคนิคที่เรียกว่า SPT หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ultheraSPT เป็นเทคนิคที่แพทย์ทุกมุมโลกเลือกใช้ เพราะได้รับงานวิจัย และผ่านการศึกษามาแล้วว่าประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกว่าเทคนิคเดิมค่ะ ซึ่ง SPT ย่อมากจาก
- S See เห็นชั้น SMAS มีหน้าจอแสดงผลแบบ Real Time ทำให้คุณหมอยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำและตรงจุด
- P Plan วางแผนการรักษาอย่างละเอียด หลังจากเช็กระดับความลึกของชั้น SMAS คำนวณพลังงานและเลือกหัวอัลเทอร่าอย่างเหมาะสม
- T Treat เริ่มทำการรักษาโดยเน้นความคุ้มค่าในทุก ๆ Line ที่ใช้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เจ็บน้อย ผิวแน่น อยู่นาน
ซึ่งเทคนิคนี้ เป็นจุดแตกต่างจากเทคนิคเดิมนะคะ เพราะโดยปกติคุณหมอจะนาบเครื่องบนใบหน้า และมองจอแสดงผลก่อนที่จะปล่อยคลื่นพลังงานในการรักษา ซึ่งจะไม่ได้ แม่นยำเท่าเทคนิค SPT ค่ะ และมีโอกาสสูงที่จะพลาดยิงไปโดนชั้นกล้ามเนื้อที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือโดนกระดูก และอาจไม่เห็นผลลัพธ์ในการยกกระชับนั่นเองค่ะ
3. ulthera กับ ultraformer III มีจุดเหมือนหรือแตกต่าง ต่างกันยังไง
จุดเหมือนกันของ อัลเทอร่า กับ ultraformer III
- อัลเทอร่า กับ ultraformer III ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เหมือนกัน และส่งพลังงานลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS
- เด่นเรื่องยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย และกระตุ้นคอลลาเจน
ข้อแตกต่างของ อัลเทอร่า กับ ultraformer III
- มีขนาดจุดโฟกัสที่ต่างกัน ultraformer III มีขนาดจุดโฟกัส 0.5 – 1 mm. ส่วน ulthera SPT มีขนาดจุดโฟกัส 1 mm. ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกัน ในเรื่องของผลลัพธ์ และระยะเวลา
- อัลเทอร่ามีหน้าจอแสดงระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปจนถึงชั้น SMAS ทำให้ขณะทำแพทย์ และคนไข้จะเห็นรายละเอียดชั้นผิวผ่านหน้าจอเครื่องแบบ Real Time ทำให้ยกกระชับผิวหน้าได้อย่างละเอียด และแม่นยำ
4. ulthera และ ultraformer III เหมาะกับใครบ้าง
ultraformer III เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้มีปัญหาแก้ม และลำคอหย่อนคล้อย มีเนื้อใต้คางเป็นชั้น ๆ ร่องแก้มลึก ต้องการให้หน้าเรียวสวย โดยไม่ต้องศัลยกรรมค่ะ และเป็นผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วนในบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ท้องแขน ต้นขา
ulthera เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า แต่ไม่ต้องการศัลยกรรมผ่าตัด และไม่มีเวลาพักฟื้น และเป็นผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียง และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยหน้าผาก ลำคอ รอบดวงตา หางตาตก คิ้วตก ก็สามารถทำอัลเทอร่า ได้เช่นกัน และอัลเทอร่ายังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ ไม่เรียบเนียนก็สามารถทำได้ค่ะ
5. ulthera และ ultraformer III ต้องทำกี่ช็อต
การกำหนดช็อตในการทำ อัลเทอร่า และ ultraformer III จะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลนะคะ ไม่ว่าจะเป็นความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยต่าง ๆ โดยปริมาณช็อตต่อครั้ง เบื้องต้นที่ควรทำในตำแหน่งต่าง ๆ มี ดังนี้
ultraformer III กี่ช็อต
- รอบดวงตา 100 – 150 shot
- ใต้คาง 150 – 300 shot
- หน้าผาก 100 – 200 shot
- หน้าแก้ม 2 ข้าง 300 – 500 shot
- ทั่วใบหน้า 400 – 500 shot
อัลเทอร่า กี่ช็อต
- รอบดวงตา หางตา 100 – 200 shot
- แก้ม เหนียง ใต้คาง 300 – 500 shot
สำหรับเคสที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย คุณหมอจะทำช็อตที่แตกต่างกันไป
- อัลเทอร่าทั่วหน้า 700 shot
- อัลเทอร่าทั่วหน้า คอ ท้องแขน หน้าท้อง 1,000 – 3,000 shot
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก่อนทำหัตถการ สำหรับที่ SOWON Clinic คุณหมอจะประเมินใบหน้าเคสต่อเคส เพื่อทำจำนวนช็อตให้เหมาะสมกับใบหน้า เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด เพราะหากจำนวนช็อตไม่ถึง ก็อาจส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนนั่นเองค่ะ
6. ulthera และ ultraformer III เจ็บไหม
ถ้าถามว่าการทำอัลเทอร่า เจ็บไหม การทำที่ได้ประสิทธิภาพต้องมีความรู้สึกเจ็บเป็นปกตินะคะ และอาจจะเจ็บมากกว่าการทำ ultraformer III เพราะการยิงอัลเทอร่าทั่วหน้าจะยิงพลังงานเป็นจุด focus ขนาดใหญ่กว่า จึงทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ และปวดหน่วงที่ชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว หรืออาจรู้สึกอุ่น ๆ ไปจนถึงขั้นร้อนขณะที่ทำ แต่ข้อดีก็คือ ยิ่งเจ็บ จะยิ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดี และอยู่ได้นานมากขึ้นค่ะ แต่สำหรับคนไข้ที่รู้สึกเจ็บมาก ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะคุณหมอจะลดพลังงานลงต่ำให้ แต่ผลลัพธ์ก็อาจจะต้องลดลงตามพลังงานเช่นกันค่ะ
7. ulthera และ ultraformer III หน้าบวมไหม กี่วันเห็นผล และอยู่ได้นานไหม
หลังทำ ulthera กับ ultraformer III อาจเกิดอาการบวมแดงได้ค่ะ ซึ่งในกรณีนี้สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้ค่ะ และสำหรับบางคนที่ช้ำง่าย อาจมีรอยแดง รอยช้ำ และระบมใต้ผิวบ้างเล็กน้อยตรงบริเวณที่ทำ แต่สามารถหายได้เองภายใน 2 – 3 วันค่ะ
ส่วนเรื่องระยะเวลาการเห็นผล หลังทำ ultraformer III จะเห็นผลทันทีประมาณ 20% และเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2 – 3 เดือน อยู่ได้นาน 5 – 6 เดือน ค่ะ
และหลังทำ ulthera SPT เห็นผลทันทีประมาณ 20% ของทั้งหมด และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น ตามคอลลาเจนใหม่ที่สร้างขึ้น จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่าผิวยกกระชับขึ้นภายใน 1 – 2 เดือน และอยู่ได้นาน 1 ปีค่ะ
8. ultraformer III กับ ulthera มีผลข้างเคียงไหม
สำหรับคนที่ผิวบอบบางหลังทำอาจเกิดรอยแดง รอยเขียวช้ำ ได้ค่ะ แต่ไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่อันตรายค่ะ และสามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ และสำหรับเครื่องอัลเทอร่า เป็นเครื่องที่มีความปลอดภัย และแม่นยำสูง เพราะเป็นการใช้คลื่นพลังงานความร้อนที่ส่งตรงไปยังเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และมีหน้าจอแสดงผลแบบ Real Time ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวทุกครั้งก่อนยิงค่ะ จึงไม่เกิดผลข้างเคียง หรือเกิดผลกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงแน่นอน
9. หลังทำ ultraformer III กับ ulthera ดูแลตัวเองยังไง
หลังทำเครื่อง 2 หัตถการนี้นะคะ มีวิธีการดูแลตัวเองที่เหมือนกันเลยค่ะ เนื่องจากมีหลักการทำงานเหมือนกัน คือ
- ควรงดการทำเลเซอร์ หรือเทคโนโลยีใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความร้อนลงชั้นผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน หรือการอบซาวด์น่า หลังทำ 4 – 5 วัน และหลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัดเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
- ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30++ ทุกวัน
- ไม่ควรนวด กด ใบหน้าแรง ๆ เพื่อลดการระบม และการบวมหลังทำ
- ในกรณีที่มีอาการบวม สามารถประคบเย็นได้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
และหลังการทำ ultraformer III กับอัลเทอร่าสามารถแต่งหน้า และทำกิจกรรมได้ตามปกติทันทีค่ะ ไม่ต้องพักฟื้น
10. ultraformer III กับ ulthera ราคาเท่าไร
สำหรับราคาของ ultraformer III เฉลี่ยอยู่ที่ 13,900 – 31,000 ค่ะ และสำหรับราคาอัลเทอร่า เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 – 114,000 ค่ะ
11. ควรเลือกทำที่ไหน และต้องพิจารณาอะไรบ้าง
ก่อนทำหัตถการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ultraformer III หรือ ulthera ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักเลยนะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยเหล่านี้
- เลือกคลินิกมีความน่าเชื่อถือ เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข และมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- ใช้เครื่อง ultraformer III และเครื่องอัลเทอร่าแท้ มีคุณภาพ นำเข้า และสั่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบคลินิกที่ใช้เครื่องอัลเทอร่าแท้ ที่ https://www.merzclubthailand.com/
- แพทย์มีประสบการณ์ และมีความชำนาญในการใช้เครื่องยกกระชับ สามารถตรวจประเมิบใบหน้า พร้อมแนะนำคนรไข้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อประเมินการใช้จำนวนพลังงาน และวางแผน เพื่อแก้ไขปัญหาได้เหมาะสมตรงจุด
- มีการนัดหมายเพื่อติดตามผลคนไข้ในภายหลัง และมีการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวทั้ง ก่อน – หลังทำ รวมถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
12. ทำ ulthera ที่ SOWON Clinic ดียังไง
- สำหรับที่ SOWON Clinic เราใช้เครื่องอัลเทอร่าแท้ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป และสั่งซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- ทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้า สามารถประเมิน และแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุด ให้คำปรึกษากับคนไข้ที่จริงใจ ตรงไปตรงมา
- และที่ SOWON Clinic มีเทคนิคเฉพาะคือการยิงอัลเทอร่า แบบ Cross Techniques เป็นการวางทิศทางการยิงไขว้กัน ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ทำให้กลไกการกระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้าเกิดขึ้นเหมือนกับตาข่ายตาถี่ และละเอียดทั่วใบหน้า ซึ่งจะทำให้ใบหน้ายกกระชับได้ดี และเห็นผลชัดเจนค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 12 ข้อที่เทียบชัดเกี่ยวกับ ultraformer III และ อัลเทอร่า คงได้รับคำตอบ และข้อสรุปกันแล้ว แต่ขอแนะนำอีกรอบแบบสั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ultraformer III หรืออลัเทอร่าถึงจะเป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานเดียวกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบความคุ้มค่าของผลลัพธ์ และราคาก็มีความแตกต่างกันค่ะ ถ้ามีงบปานกลาง ขอแนะนำเป็น ultraformer III แต่ถ้าหากมีงบที่เพิ่มมากขึ้น และอยากได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อยู่ได้ยาวนาน ต้องอัลเทอร่าเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะเลือกทำหัตถการใด ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาบนใบหน้าของเราค่ะ ถ้าหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถทักมาปรึกษาได้ที่เพจ SOWON Clinic ได้เลยค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อัลเทอร่า
บอกลาปัญหาคอเหี่ยว คอเป็นเส้น พร้อมฟื้นคืนผิวอ่อนเยาว์ !
เข้าใจสาเหตุที่ทำให้คอเหี่ยว คอเป็นเส้น พร้อมบอกวิธีบำรุงและแก้ปัญหาผิวบริเวณคอที่เสื่อมสภาพ ด้วย 5 วิธีที่ทำได้ด้วยตัวเอง และรับการดูแลจากแพทย์ความงาม
ตัวตึงเรื่องยกกระชับ รู้จัก Ultraformer MPT คืออะไร ?
เจาะนวัตกรรมการยกกระชับผิว ตัวตึงปี 2024 อย่าง Ultraformer MPT ตอบชัดคืออะไร ช่วยอะไร ดีจริงไหม และต้องเตรียมก่อน-หลังทำอย่างไรดี หาคำตอบได้ครบที่นี่เลย
Q&A เครื่อง “Ulthera” ยกกระชับหน้า ให้อ่อนวัยได้จริงไหม ?
ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Ulthera เทคโนโลยียกกระชับหน้าไร้ผ่าตัด เห็นผลเร็วแค่ไหน เจ็บไหม ผลลัพธ์อยู่นานเท่าไร ? พร้อมคำแนะนำการดูแลหลังทำในบทความนี้
เทียบผลลัพธ์ ! การทำ Morpheus8 VS Ulthera ต่างกันอย่างไร ?
ในปัจจุบัน เทคโนโลยียกกระชับผิวมีหลากหลายตัวเลือก ซึ่งแ…
ยกกระชับหน้าวิธีไหนดี ที่จะช่วยย้อนวัยผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างใจ
ใครที่กำลังอยากยกกระชับหน้า แต่ไม่รู้ว่ามีกี่แบบ วิธีไหนดีที่สุด และช่วยฟื้นคืนผิวให้แลดูอ่อนวัยได้ดังใจ เรามีวิธีการยกกระชับหน้ามาบอกกัน ตามไปดูกันเลย
Ulthera VS Thermage ต่างกันยังไง ทำอันไหนคุ้มกว่ากัน?
Ulthera และ Thermage เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านจะต้องพอได้ยินมาหนาหูอยู่บ้างว่า 2 สาวนี้ช่วยเก่งมากเรื่องยกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด