สาว ๆ หลายคนคงใฝ่ฝันอยากมีจมูกสวย ๆ เป๊ะปังรับกับใบหน้า แต่กลับพบว่าปัญหาเรื่องฐานจมูกกว้าง จมูกบาน หรือมีฮัมพ์ กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดความมั่นใจ นอกจากนี้ บางคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้วก็อาจประสบปัญหาซิลิโคนเบี้ยวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ก็คือ การตอกฐานจมูก ซึ่งแม้ชื่ออาจฟังดูน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการใช้เครื่องมือขนาดเล็กในการปรับโครงสร้างของจมูกเท่านั้น ที่สำคัญ นอกจากจะให้ผลลัพธ์สวยปังแบบไม่โป๊ะแล้ว ยังเป็นวิธีแก้ที่ตรงจุด สามารถช่วยเปลี่ยนใบหน้าให้ดูละมุนและสวยหวานตามที่สาว ๆ ฝันไว้อีกด้วย
ตอกฐานจมูกคืออะไร ?
“ตอกฐานจมูก” หรือ Nose Osteotomy จริง ๆ แล้วเป็นเพียงการผ่าตัดเพื่อปรับรูปทรงและขนาดของกระดูกบริเวณฐานจมูกเท่านั้น ซึ่งมีทั้งการบีบกระดูกแกนจมูกให้แคบลง และการตัดแต่งกระดูกส่วนที่นูนเกินออกมาที่เรียกว่า ฮัมพ์ โดยเฉพาะในรายที่มีฮัมพ์มากจนจมูกงุ้มคล้ายจมูกแม่มด
วิธีนี้จะช่วยทำให้กระดูกฐานจมูกเรียบขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเสริมซิลิโคนในภายหลัง เพราะจะทำให้ใส่ซิลิโคนได้ง่ายและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าเทคนิคนี้ไม่ได้ช่วยให้ฐานจมูกเล็กลง แต่จะช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างและรูปทรงจมูกเดิมที่ไม่สวย เช่น ฐานจมูกใหญ่ ฐานไม่เท่ากัน หรือมีฮัมพ์โด่งเกินไป ให้กลายเป็นจมูกที่เรียวสวย มีสโลปที่เข้ากับรูปหน้ามากยิ่งขึ้น
ตอกฐานจมูก มีกี่แบบ ?
สำหรับสาว ๆ ที่สนใจการตอกฐานจมูก บอกเลยว่ามีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ซึ่งก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่ามีแบบไหนบ้าง
1. การผ่าแบบเปิด (Open Nose Recon)
เริ่มกันที่วิธีแรก แพทย์จะเปิดแผลเพื่อมองเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ทำให้ตัดแต่งทรงได้อย่างแม่นยำ จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาฮัมพ์ขนาดใหญ่ ฐานจมูกกว้าง หรือจมูกงุ้ม เพราะจะช่วยปรับฐานจมูกให้ตรงก่อนการเสริมจมูกหรือใส่ซิลิโคน
2. การผ่าตัดแบบปิด (Close Nose Recon)
อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจคือ การผ่าตัดแบบปิด หรือการเปิดแผลขนาดเล็กเพียง 2 มม. ข้างสันจมูก แล้วใช้เครื่องมือเข้าไปปรับฐานจมูกให้เรียบลง ทั้งนี้ ระดับการปรับฐานจมูกให้แคบลงจะขึ้นอยู่กับความหนาและทรงจมูกเดิมของแต่ละคน วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาฐานจมูกไม่มากนัก หรือมีแค่สันจมูกที่กว้างเท่านั้น
3. การผ่าตัดแบบกึ่งเปิด (Semi-Open Nose Recon)
และสุดท้ายกับวิธีที่กำลังฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ เพราะใช้เวลาพักฟื้นน้อยและซ่อนรอยแผลได้ง่ายกว่าแบบเปิด กับวิธีการผ่าตัดแบบกึ่งเปิด โดยแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลที่รูจมูกทั้ง 2 ข้าง แล้วเข้าไปปรับโครงสร้างภายใน ซึ่งทำให้สามารถทำได้ทั้งการตอกฐานจากด้านนอกและด้านในรูจมูกเลยทีเดียว
ใครบ้างที่เหมาะกับการตอกฐานจมูก ?
มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะกับการตอกฐานจมูก
- ฮัมพ์จมูกใหญ่ หรือจมูกอูฐ
เริ่มต้นกันที่สาว ๆ กลุ่มแรกที่มีปุ่มกระดูกยื่นออกมาตรงสันจมูก ทำให้เวลามองด้านข้างจะเห็นเป็นทรงโค้งคล้ายหลังอูฐ ซึ่งแบบนี้จะทำให้หน้าดูแมนและดุเกินไป โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากได้ลุคสวยหวาน นอกจากนี้ ถ้าจะเสริมจมูกต่อไปก็เสี่ยงที่ซิลิโคนจะเบี้ยวได้ง่าย ๆ อีกด้วย
- ฐานข้างจมูกไม่เท่ากัน
ต่อมาคือปัญหาจมูกที่เรียกง่าย ๆ ว่าฐานจมูกซ้ายขวาไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้หน้าดูไม่สมมาตรและขาดความสมดุล ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ หากไปเสริมจมูกโดยไม่แก้ไขฐานก่อน ฝั่งที่ใหญ่กว่าก็อาจจะดันให้ซิลิโคนเบี้ยวไปอีกฝั่งได้
- ฐานจมูกกว้าง
อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยในสาว ๆ ที่มีฐานจมูกกว้าง คือจมูกจะดูแบน สั้น และไม่มีสันมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าขาดมิติ ไม่โดดเด่น และที่แย่ไปกว่านั้นคือ อาจทำให้ใบหน้าดูกว้างมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ด้วย
- ฐานจมูกเอียง ใหญ่ข้างเล็กข้าง
ส่วนปัญหานี้มักพบได้บ่อยในสาว ๆ ที่เคยเสริมจมูกมาก่อน เนื่องจากฐานกระดูกแต่ละข้างมีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้จมูกดูเอียง ไม่ตรง ดังนั้น หากคิดจะเสริมจมูกใหม่โดยไม่แก้ไขฐาน ก็จะยิ่งทำให้จมูกเอียงมากขึ้นกว่าเดิม
- ฐานข้างจมูกใหญ่
และสุดท้าย สำหรับคนที่มีฐานข้างจมูกใหญ่ สังเกตง่าย ๆ เลยว่าจะมีปุ่มกระดูกนูน ๆ เป็นแนวยาวที่ข้างจมูก ซึ่งทำให้จมูกดูใหญ่ผิดธรรมชาติ แม้จะเสริมจมูกไปแล้วก็ยังคงดูใหญ่เหมือนเดิม เพราะกระดูกข้าง ๆ ยังอยู่ตรงนั้นไม่ได้หายไปไหน
ข้อดีและข้อเสียของการตอกฐานจมูก
ก่อนตัดสินใจรับการตอกฐานจมูก สาว ๆ ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ข้อดี
- ได้รูปทรงจมูกที่สวยงาม
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การตอกฐานจมูกจะช่วยทำให้ฐานจมูกดูเรียวขึ้น ซึ่งส่งผลให้สันจมูกดูโดดเด่น และที่สำคัญ ยังช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูสวยงามเป็นธรรมชาติ
- แก้ไขปัญหาจมูกเบี้ยว
สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาฐานจมูกเบี้ยว การตอกฐานจมูกยังช่วยปรับแก้ให้ฐานจมูกตรงและสมมาตร ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงาม
- ป้องกันปัญหาซิลิโคนเลื่อน
ที่สำคัญไปกว่านั้น การตอกฐานจมูกยังช่วยให้ซิลิโคนแนบสนิทกับกระดูกจมูกได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะเลื่อนหรือเบี้ยวในอนาคต
- เสริมสร้างความมั่นใจ
เมื่อได้รูปทรงจมูกที่สวยงามตามที่ต้องการแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งส่งผลให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อเสีย
- เสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด
แน่นอนว่าการทำศัลยกรรมย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูงสำหรับบางคน
- เผชิญความเสี่ยงจากการผ่าตัด
เช่นเดียวกับการผ่าตัดทุกประเภท การตอกฐานจมูกก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ
- พบอาการบวมช้ำหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัด อาจมีอาการบวมช้ำบริเวณจมูกและใบหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถหายได้เองตามระยะเวลาที่แพทย์ประเมิน
- ต้องการเวลาพักฟื้น
การตอกฐานจมูกยังจำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นด้วย เพื่อให้แผลหายสนิทและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามที่ตั้งใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตอกฐานจมูก
สำหรับสาว ๆ ที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตอกฐานจมูก เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบเอาไว้ให้ด้านล่างนี้แล้ว มาดูกันเลย
- การตอกฐานจมูกมีค่าใช้จ่ายเท่าไร ?
การตอกฐานจมูกไม่มีราคาตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งชื่อเสียงของคลินิก ประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงความยากง่ายของแต่ละกรณี ดังนั้น แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินราคาที่เหมาะสมกับความต้องการก่อน
- อาการบวมจะมากกว่าการเสริมจมูกธรรมดาหรือไม่ ?
การตอกฐานจมูกอาจบวมมากกว่าการเสริมจมูกธรรมดาเล็กน้อย เพราะมีขั้นตอนการตอกฐานกระดูกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สามารถรับประทานอาหารเสริมลดบวมได้ แต่ต้องระวังเลือกชนิดที่ไม่มีแอสไพรินเป็นส่วนผสม เพื่อความปลอดภัย
- ระยะเวลาการหายของแผลเป็นอย่างไร ?
ในช่วง 2 วันแรกหลังผ่าตัด อาการบวมจะอยู่ในระดับสูงสุด หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ ที่สำคัญ จมูกจะเริ่มรัดแกนหลังจาก 3 เดือนขึ้นไป และจะเข้าที่สมบูรณ์ในระยะเวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี
- ความเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัดเป็นอย่างไร ?
การผ่าตัดจะทำภายใต้การดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บระหว่างผ่าตัด แม้อาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยหลังการผ่าตัด แต่ก็บรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์จัดให้
หากสาว ๆ คนไหนกำลังมองหาคลินิกศัลยกรรมจมูกที่ให้ผลลัพธ์สวยเป็นธรรมชาติ SOWON Clinic พร้อมดูแลคุณด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10,000 เคส โดยเราใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการเหลาซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้า ไปจนถึงการดูแลหลังผ่าตัดตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ เรายังมั่นใจในผลงานด้วยการรับประกันผลลัพธ์นานถึง 6 เดือน
สนใจเข้ารับคำปรึกษาเพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน หรือต้องการสอบถามรายละเอียดบริการและโปรโมชันเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ LINE: @sowonclinic