ผิวพรรณรูปเว็บสกิน 6 รูป-06

ไขเคล็ดลับ! การฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

การฉีดโบท็อกซ์ คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ลงไปบนกล้ามเนื้อที่มีการเกร็งตัว เพื่อช่วยยกกระชับปรับรูปหน้าและลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้แลดูจางลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่ได้รูป ผิวพรรณเหี่ยวย่น มีริ้วรอยก่อนวัยอันควร ซึ่งโบท็อกซ์จะเข้าไปช่วยในการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ในบริเวณต่าง ๆ ซึ่งสามารถฉีดได้ในหลายบริเวณ

การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยอะไรได้บ้าง

การฉีดโบท็อกซ์ในแต่ละที่ล้วนให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เช่น การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะต้องทำการฉีดในบริเวณที่เกิดริ้วรอย เช่น หน้าผาก ตีนกา แต่ถ้าหากต้องการปรับรูปหน้าด้วยการลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลง ก็สามารถทำได้ด้วยการฉีดโบท็อกซ์กราม ซึ่งจะช่วยให้กรามเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า

ทำไมต้องเลือกฉีด BOTOX ที่ SOWON Clinic

เพราะ SOWON Clinic มีแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวพรรณและความงาม ที่จะช่วยแก้ไขรูปหน้าและลดเลือนริ้วรอยในจุดที่บกพร่อง หรือในจุดที่สร้างความกังวลใจให้แก่คุณ ด้วย BOTOX ของแท้ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลีและสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ของหิ้ว โดยผ่านการรับรองจาก อย. ทุกตัว จึงมั่นใจได้ว่าหลังทำจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ สะอาดและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ตึงลิฟต์หน้า การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม หรือการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ก็สามารถทำได้ในราคาสมเหตุสมผล!

ขั้นตอนการฉีด BOTOX ให้ได้ผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่แข็ง

1. ทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อย

2. ประคบน้ำแข็งบริเวณที่จะทำการฉีดโบท็อกซ์

3. จากนั้นแพทย์จะทำการฉีดโบท็อกซ์เพื่อแก้ไขปัญหาของคนไข้อย่างเบามือ

ระยะเวลาในการทำ

ระยะเวลาในการฉีดโบท็อกซ์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น บริเวณที่ต้องการฉีด หรือปริมาณสารโบทูลินั่มท็อกซินที่ฉีดเข้าไป ซึ่งล้วนส่งผลให้ระยะเวลาแตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 20-30 นาที

โบท็อกซ์ที่นำมาใช้

AESTOX  NABOTA 

XEOMIN  ALLERGAN

(ซึ่งการเลือกใช้โบท็อกซ์จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ร่วมกับการพิจารณาของแพทย์ โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามยูนิตและยี่ห้อที่ใช้)

ราคาโบท็อกและความบริสุทธิ์ของแต่ละยี่ห้อ
ฉีดโบท็อกจุดไหนดี
กรามใหญ่ แก้มเยอะ ทำอย่างไรให้หน้าเรียว

โบท็อกซ์เเต่ละยี่ห้อมีข้อดีต่างกันอย่างไร?

ปัจจุบันโบท็อกซ์มีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งบริษัทและประเทศที่ผลิต เช่น ประเทศเกาหลี ประเทศเยอรมัน ประเทศอเมริกา เป็นต้น รวมไปถึงความบริสุทธิ์ของตัวยาที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาและระยะเวลาในการออกฤทธิ์ โดยวันนี้เราจะมาแนะนำโบท็อกซ์ยอดนิยมที่หลายคนเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่รู้ถึงความแตกต่างอย่างแน่ชัดของแต่ละยี่ห้อ

Allergan 

เป็นต้นแบบของโบท็อกซ์ทุกชนิด โดยมีตัวยาที่นำเข้าส่งตรงมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีฤทธิ์อยู่ได้นานที่สุดประมาณ 8 เดือน

เป็นที่หนึ่งด้านความบริสุทธิ์และอ่อนโยนมากที่สุด เนื่องจากมีโปรตีนน้อยที่สุด สามารถกระจายตัวได้อย่างแม่นยำทำให้เกิดการไหลตัวของโบท็อกซ์น้อย อีกทั้งยังแทบไม่มีโอกาสของอาการดื้อยา

Botox ยี่ห้อ Allergan
โบท็อกยี่ห้อ Xeomin

Xeomin 

โบท็อกซ์จากเยอรมัน ที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีคุณภาพไม่เเพ้เเบรนด์อื่น เนื่องจากมีความคล้าย Allergan ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพ ทำให้เห็นผลชัดเจน

นับได้ว่ามีความบริสุทธิ์และอ่อนโยนมากที่สุด หลังฉีดจึงได้ผลลัพธ์หน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 8 เดือน

Nabota 

เป็นโบท็อกซ์ราคาไม่เเรงที่ส่งตรงจากประเทศเกาหลี โดยยังคงคุณภาพไม่น้อยหน้าเเบรนด์อื่น ด้วยกระบวนการผลิตจากเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของยี่ห้อนี้

จึงทำให้ได้โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ตัวยาออกฤทธิ์เร็วเเละมีโอกาสดื้อยาน้อย ยาไม่กระจายตัวในมุมกว้าง มีฤทธิ์อยู่ได้ 6-8 เดือน โดยยังคงความอ่อนโยนและความบริสุทธิ์ หลังฉีดไปใบหน้าไม่แข็งตึงเเสดงสีหน้าได้เป็นปกติ เรียกได้ว่าได้ของดีในราคาคุ้มค่า คุณภาพคับกระเป๋ากันเลยทีเดียว

โบท็อกยี่ห้อ Nabota
โบท็อกยี่ห้อ Aestox

Aestox 

อีกหนึ่งโบท็อกซ์ส่งตรงจากประเทศเกาหลี ประเทศที่นำเทรนด์ความสวย ที่มีราคาไม่เเรง พร้อมคุณภาพที่ไม่แพ้ใคร โดยจะเห็นผลดีสำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมีฤทธิ์อยู่ได้ 6-8 เดือน

ตัวเลือกยกกระชับ! โบท็อกซ์ FACE LIFT VS HIFU

หลายคนคงกำลังลังเลใจว่าจะเลือกทำ HIFU หรือฉีด Lifting ใบหน้าด้วย Botox ดี เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้มีฤทธิ์ในการยกกระชับเหมือนกัน แต่แน่นอนว่าให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต่างกันอย่างไร และแบบไหนที่เหมาะกับใคร มาทำความเข้าใจพร้อมกันได้เลย

เทียบชัด HIFU และการฉีดโบท็อกซ์กรอบหน้า
  1. การยกกระชับ HIFU ลงลึกกว่าโบท็อกซ์ Face Lift จึงทำให้มีแรงดึงใบหน้ามากกว่า
    • HIFU เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งเป็นพลังงานที่ลงลึกถึงใต้ผิวหนังชั้น SMAS จึงช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างล้ำลึก ทำให้มีแรงดึงได้มากกว่าการฉีดโบท็อกซ์กรอบหน้า ซึ่งจะช่วยยกหน้าแค่เพียงชั้นผิวตื้น ๆ เท่านั้น
  2. HIFU กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่โบท็อกซ์ทำให้ผิวชั้นบนตึงขึ้น
    • เนื่องจาก HIFU เป็นการยิงพลังงานไปใต้ผิวหนังจึงสามารถช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งและแน่นฟูขึ้น อีกทั้ง HIFU สามารถยิงลงบนผิวหนังได้ทั่วใบหน้า ซึ่งโบท็อกซ์จะไม่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่จะสามารถดึงผิวหน้าในบริเวณกรอบหน้าได้
  3. ผลลัพธ์ มีความแตกต่างกัน
    • HIFU จะสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 6 เดือน-1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล โดยสามารถทำซ้ำได้หากมีความหย่อนคล้อยสูง ส่วนผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ Face Lift อยู่ได้สั้นกว่า HIFU เพราะโบท็อกซ์ Face Lift ทำงานในชั้นที่ตื้นกว่า
  4. ค่าใช้จ่าย 
    • การฉีดโบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้ามีราคาถูกกว่าการทำ HIFU จึงทำให้การฉีดโบท็อกซ์เป็นที่นิยมมากว่า
เตรียมตัวก่อนการฉีดโบท็อกซ์
ข้อควรระวังก่อนการฉีดโบท็อกซ์

การเตรียมตัวก่อนฉีด BOTOX

  1. ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
  2. งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  3. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  4. สุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  5. ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ
  6. หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

การดูแลตัวเองหลังฉีด BOTOX

  1. งดนอนราบหลังฉีดโบท็อกซ์ เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อกซ์
  2. งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 1 เดือน
  3. หลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่ฉีดโดนความร้อนเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการหน้าแดง เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างหนัก อบซาวน่า แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะเข้าไปสลายตัวยาให้หมดสภาพเร็วขึ้น
  5. กรณีฉีด Botox ลดกราม หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 2 ข้างเท่า ๆ กัน โดยการสลับซ้ายขวา เป็นเวลา 30 นาที-1 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยากระจายเข้ากล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดได้ดียิ่งขึ้น
  6. หลังฉีดโบท็อกซ์ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ โดยจะมีรอยแดงจากเข็มและรอยนูนจากการฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลา 1-2 ชั่วโมงหลังฉีด
  7. งดการทำทรีตเมนต์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์ แต่สามารถทาครีมไม่ตามปกติ
ดูแลตัวเองหลังฉีด BOTOX

รีวิวจากผู้ใช้บริการ BOTOX

รีวิวการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่หน้าผาก
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ราคาดี
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยครั้งแรก
รีวิวฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ให้หน้าเรียว
 รีวิวฉีดโบท็อกซ์กราม ลดขนาดหน้า
รีวิวโบท็อกซ์ ลดกราม
SoWon คลินิก ฉีดโบท็อกรีวิวกว่า 20,000 เคส