โบท็อกคืออะไร? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ใช้กี่ยูนิต ต้องรู้!

โบท็อกเป็นหัตถการอันดับต้นๆ ที่หลายคนอยากทำและเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้ปรับรูปหน้าให้เรียว ลดริ้วรอยตื้นๆ บนใบหน้า ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้คงอยู่อย่างถาวร แต่ก็ต้องยอมรับว่าการฉีดโบท็อกทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนและระยะเวลาการเห็นผลค่อนข้างไว จึงทำให้หลายคนหันมาสนใจปรับรูปหน้าด้วยการฉีดโบท็อกอย่างมากในตอนนี้

SOWON Clinic เลือกใช้โบท็อกตัวยาที่ได้มาตรฐานปลอดภัยอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนถึงการวิเคราะห์รูปหน้าเพื่อดีไซน์การฉีดให้เข้ากับปัญหารูปหน้าของแต่ละบุคคลด้วยเทคนิคเฉพาะของ SOWON Clinic ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ การันตีด้วยรางวัล 7 ปีซ้อน

Q&A คำถามยอดฮิตของสายฉีดโบ

Q : โบฉีดจุดไหนได้บ้าง ช่วยเรื่องอะไรดียังไง  + เทคนิคกลไกเฟสลิฟ

A : botulinum toxin ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อโดยจะแบ่งหลักๆ เป็นปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าบริเวณหน้าผาก หางตา หว่างคิ้วและลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกราม น่อง ต้นแขนและปัญหาอื่นที่ช่วยได้เช่นระงับเหงื่อรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ทั้งยังช่วยกระชับผิวหน้าโดยเทคนิคเฟสลิฟต์ botulinum toxin มีผลการศึกษาพบว่าช่วยกระตุ้นเซลล์ไฟโบบลาสต์ทำให้ผิวกระชับขึ้น ทำงานกับผิวชั้นตื้น ยกกระชับทันที ไม่ต้องรอ 3-4 วัน

Q : ฉีดโบท็อกแต่ละจุดได้กี่ยูนิตบ้าง?

A : ปริมาณตัวยาที่ใช้ในแต่ละบริเวณขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น สภาพปัญหาริ้วรอยที่มีอยู่บนผิวหนังขณะนั้น เพศ อาชีพที่สัมพันธ์กับการแสดงสีหน้า ปัญหาอื่นๆของโครงสร้างผิวที่ส่งผลต่อโบ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลอย่างไรก็ตามสามารถระบุคร่าวๆได้ ดังนี้

Q : ฉีดโบแต่ละยี่ห้อต่างกันยังไง ดียังไง  

A : โบอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูงให้ผลที่แม่นยำระยะเวลาเห็นผลนานกว่ายี่ห้ออื่น

โบเยอรมันให้ผลที่เป็นธรรมชาติมากกว่าและมีการศึกษาว่าช่วยแก้ปัญหาการดื้อโบได้ในบางราย

โบเกาหลีมีให้เลือกหลายยี่ห้อมีจุดเด่นคือราคาที่ย่อมเยาเหมาะกับคนที่ต้องการคุมงบประมาณ

Q : ปัญหาของการฉีดโบที่ต้องระวัง เช่น หน้าแข็ง ตาตกไม่ธรรมชาติ และฉีดโบสลับรุ่นไปมา ไม่ดียังไง

A : การฉีดแล้วให้ดูเป็นธรรมชาติไม่ตึงจนดูหลอก หรือแสดงสีหน้าไม่ได้ โดยทำการตรวจสภาพผิวของผู้รับบริการแต่ละคนเพื่อกำหนดปริมาณและเทคนิคที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเป็นธรรมชาติ

  ปัจจุบันมี botulinum toxin อยู่หลายยี่ห้อมาก จากการศึกษาวิจัยพบว่าโอกาสเกิดการดื้อยาสัมพันธ์กับคุณภาพของตัวยา ความถี่ในการฉีด ปริมาณในการฉีดแต่ละครั้งรวมไปถึงการสลับยี่ห้อไปมาบ่อยๆ ทำให้เกิดการดื้อยาได้ง่าย

Q : โบหิ้ว กับโบนำเข้า ต่างกันยังไง อันตรายยังไง เรื่องการขนส่งโบถูก โบแพง

A : ตัวยาที่จำหน่ายโดยตัวแทนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายจะจัดเก็บและขนส่งโดยขั้นตอนที่ได้มาตรฐาน ส่วนยาหิ้วก็คือยาเถื่อนไม่มีใครรับรองได้ว่าจริงๆแล้วยานั้นคืออะไร ถูกผลิตมาอย่างไรได้มาตรฐานหรือไม่ ไปจนถึงปัญหาการจัดเก็บและขนส่ง ทำให้เมื่อถูกนำเข้าสู่ร่างกาย อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ เช่น ติดเชื้อแทรกซ้อน ตาตก ปากเบี้ยว ดื้อโบท็อกในอนาคต

Q : ฉีดโบท็อกแล้วทำไมริ้วรอยหายไม่หมด

A : ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าริ้วรอยจะแบ่ง 2 ประเภท คือ 1.ริ้วรอยชั่วคราว(dynamic line) คือปรากฎเฉพาะตอนที่เราแสดงสีหน้า 2.ริ้วรอยถาวร(Static line) คือไม่ต้องแสดงสีหน้าก็เห็นเส้น ร่องลึกบนใบหน้า ปกติแล้วก่อนจะเกิด static line เราทุกคน จะเป็น dynamic line ก่อนเสมอ ซึ่งเมื่อ dynamic line ไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ก็จะทำให้กลายเป็น static line แทน ซึ่งผลการรักษาริ้วรอยทั้งสองประเภทจะแตกต่างกันออกไป 

การรักษา dynamic line ด้วยโบท็อกจะทำให้ริ้วรอยจางลงทั้งหมดได้ ดังนั้นการที่เราดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆหรือเริ่มมีปัญหาริ้วรอยก็จะทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Botox เห็นผลได้ชัดเจน 

การรักษา static line ด้วยโบท็อกจะสามารถทำได้แค่ให้ร่องลึกแลดูตื้นขึ้น ซึ่งร่องลึกจะไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าโดยรวมจะดูเด็กขึ้นได้จากการที่ร่องลึกตื้นขึ้นด้วยฤทธิ์ของโบท็อก

ดังนั้นการรักษาริ้วรอยทั้งสองแบบ แพทย์ไม่ได้เพียงแค่คำนึงถึงเรื่องของริ้วรอยเท่านั้น เพราะบางครั้ง หากเราวางโบท็อกบนใบหน้ามากเกินไป หรือฉีดในตำแหน่งที่มีริ้วรอย แต่อาจส่งผลต่อการแสดงสีหน้าที่ไม่ธรรมชาติตามมา ซึ่งแพทย์ที่Sowon จะมีเทคนิคในการ balance โบท็อก ให้พอดีกับใบหน้า โดยเป็นหลักของ Harmony Look ที่แพทย์จะปรับให้คนไข้มีใบหน้าองค์รวมที่ดูเด็กและสมดุลมากขึ้น

รวมเคสรีวิว Botox+ บทความสัมภาษณ์ ความประทับใจ