กาลเวลาผ่านไป ความร่วงโรยของสภาพผิวก็ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติ แต่โดยทั่วไปแล้วคนเรามักจะให้ความสนใจและดูแลผิวหน้าเป็นหลัก จนละเลยผิวช่วงคอที่บอบบางไม่แพ้กัน สุดท้ายกว่าจะรู้ตัว ผิวสวย ๆ ก็อาจจะประดับไปด้วยรอยเส้นที่คอ รู้สึกคอเหี่ยวย่นจนขาดความมั่นใจ และสงสัยว่าทำไงให้หายดี บทความนี้จึงมีวิธีบำรุงและตัวช่วยแก้ปัญหามาฝาก
สาเหตุที่ทำให้คอเหี่ยว คอเป็นเส้น
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีบำรุงและแก้คอเหี่ยวย่น อันดับแรกควรมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้กันก่อน เพราะถ้ารู้ว่าต้นตอตัวร้ายที่ทำให้คอย่นเกิดจากอะไร ก็จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันและแก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง : เมื่อเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผิวบางลงและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คอเหี่ยว เกิดรอยย่นได้ในที่สุด
- คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง : เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น จนนำไปสู่การเกิดรอยพับ ร่องลึกต่าง ๆ บนผิว
- ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนน้อย : การขาดน้ำและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวแห้ง ไม่ยืดหยุ่น ทั้งผิวหน้า ผิวกาย โดยเฉพาะผิวบริเวณคอ
- อายุมากขึ้น : เป็นสาเหตุหลักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถชะลอความเสื่อมของผิวได้ด้วยการดูแลที่เหมาะสม
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : สารพิษจากบุหรี่และแอลกอฮอล์ทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวคอเหี่ยวย่นเร็วขึ้น
- น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว : การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผิวหย่อนคล้อย รวมถึงผิวบริเวณคอ ซึ่งจะทำให้เกิดรอบพับ รอยเส้นได้เหมือนกัน
- ก้มคอบ่อย ๆ : พฤติกรรมการก้มคอมองโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณคอได้
5 วิธีบำรุงและแก้คอเหี่ยว คอเป็นเส้น
หลังจากที่เราเข้าใจสาเหตุแล้ว มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยบำรุงและแก้ไขปัญหาคอเหี่ยว คอเป็นเส้นได้ ซึ่งมีทั้งวิธีที่ทำได้เองที่บ้านและวิธีที่ต้องให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นคนช่วยดูแล ดังนี้
1. บริหารกล้ามเนื้อลำคอ
การบริหารกล้ามเนื้อลำคอเป็นประจำ ไม่เพียงแต่ช่วยกระชับผิวและลดริ้วรอย แก้คอเหี่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในบริเวณได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เงยหน้าขึ้น จีบปากแล้วเป่าลมแรง ๆ ค้างไว้ 5 วินาที
- แหงนหน้าขึ้นฟ้าพร้อมยิ้มกว้าง ๆ ให้รู้สึกตึงที่คอ ค้างไว้ 5 วินาที
- หมุนคอช้า ๆ เป็นวงกลม 5 รอบตามเข็มนาฬิกา และ 5 รอบทวนเข็มนาฬิกา
- ทำซ้ำแต่ละท่า 10-15 ครั้งต่อเซต วันละ 2-3 เซต เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. ทาครีมบำรุงตั้งแต่ใบหน้าไปจนถึงลำคอ
การเลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสม เป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผิวบริเวณใบหน้าตลอดจนลำคอ เพียงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสำคัญในการฟื้นบำรุงความอ่อนเยาว์ของเซลล์ ดังนี้
- วิตามินซี : ตัวช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและต่อต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังทำให้ผิวกระจ่างใส สุขภาพดี
- เรตินอล : อนุพันธ์วิตามินเอ ตัวช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- เปปไทด์ : สารสำคัญที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการแก้ปัญหาคอเหี่ยว จากสาเหตุผิวขาดความชุ่มชื้นและการบำรุง จนทำให้คอเป็นเส้น เพียงทาครีมบำรุงเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน โดยทาจากผิวหน้า ใต้คางลงมาถึงคอด้านหน้าและด้านข้าง พร้อมทำการลูบขึ้นเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียน เท่านี้ก็จะช่วยกระตุ้นให้ผิวตื่นตัว สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน มาซ่อมแซมผิวที่เหี่ยวย่นได้อย่างมั่นใจ
3. มาสก์คอกระชับผิว
อีกหนึ่งวิธีการแก้คอเหี่ยวย่นที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มาสก์บำรุงผิวที่ออกแบบตัว Sheet Mask มาใช้สำหรับบริเวณคอโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีสารสกัดสำคัญที่ทั้งอ่อนโยน และฟื้นบำรุงผิวได้อย่างตรงจุด
- เลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิก แอซิด, คอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติอย่างอโลเวรา
- ใช้มาสก์ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที
- หลังใช้มาสก์ ให้นวดเบา ๆ เพื่อให้สารบำรุงซึมซาบสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
4. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์งานผิว
สำหรับใครที่รู้สึกว่าปัญหาผิวคอเหี่ยว เป็นสิ่งกวนใจที่รอการบำรุงจนลดเลือนคงไม่ทันเวลา นี่คือวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ทันใจ และปลอดภัยภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ นั่นคือการทำโปรแกรม “ฟิลเลอร์งานผิว” หรือ Skin Booster ที่จะมาช่วยเติมเต็มร่องตื้น รอยเส้นที่คอ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นได้จากภายใน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรอาหารและยา ทั้งในไทยและต่างประเทศ
- โปรแกรมนี้จะใช้ฟิลเลอร์ที่มีอนุภาคเล็กและละเอียด ออกแบบมาสำหรับผิวชั้นตื้น ให้ความเรียบเนียน ชุ่มชื้น และเป็นธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันจะมีรุ่นที่นิยมหลัก ๆ ได้แก่ Restylane Vital Light และ Belotero Revive
- ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันที และมักอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- ควรทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังหรือศัลยแพทย์ความงาม เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
5. ทำโปรแกรมยกกระชับ Ulthera SPT
ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่ล้ำสมัย อย่างเครื่อง Ulthera SPT ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ผ่านการทำงานของหน้าจอแสดงผลแบบ Real-Time และหัวยิงพลังงานที่ออกแบบมาให้ส่งตรงเข้าชั้นผิวได้อย่างตรงจุด จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยยกกระชับผิวคอที่หย่อนคล้อย และแก้ไขร่องรอยตื้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณคอ แต่ไม่ต้องการผ่าตัด
- ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังการทำ และสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนทำ
การดูแลผิวบริเวณคอควรทำอย่างสม่ำเสมอและอดทน เพราะผลลัพธ์ที่ดีต้องใช้เวลา นอกจากนี้ อย่าลืมดูแลสุขภาพโดยรวม ทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ผิวจะได้มีเวลาซ่อมแซม ยืดระยะความเหี่ยวย่นที่จะมาเยี่ยมเยือนออกไปได้อย่างมั่นใจ
สำหรับใครที่อยากแก้ปัญหารอยพับที่คอ แต่กังวลว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม หรือตัวเองจะเหมาะกับโปรแกรมยกกระชับด้วยการทำ Ulthera SPT มากกว่ากัน มาหาคำตอบด้วยการขอคำปรึกษาเพิ่มเติม และให้ทีมแพทย์ช่วยประเมินได้เลยที่ Sowon Clinic หรือต้องการสอบถามรายละเอียดบริการและโปรโมชัน สามารถแอด LINE: @sowonclinic ได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- Neck Wrinkles? Here’s What Can Help. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567. จาก https://health.clevelandclinic.org/the-best-skin-care-ingredients-for-your-neck
- What Are Skin Boosters? Everything to Know About the New Injectable. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567. จาก https://www.harpersbazaar.com/beauty/skin-care/a44004377/skin-boosters-injectables-explained/
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน