ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็ม ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมฟิลเลอร์ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องการเติมเต็มให้ใบหน้าดูอิ่มฟู ดูมีวอลลุ่มเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับแถมลดความหย่อนคล้อยได้อีกด้วยค่ะ แต่ต้องระวังด้วยนะคะ! เพราะถ้าเราฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่ล้นจนเกินไป อาจส่งผลให้หน้าเราเกิดปัญหา Overfill จนกลายเป็น หน้าขนมปัง หรือ Bread Face ได้เลยนะคะ
ซึ่งวันนี้ Sowon Clinic จะพาคุณไปลงลึกถึงแก่นของโปรแกรมฟิลเลอร์ ว่าจริง ๆ แล้วฟิลเลอร์คืออะไรกันแน่ มีกี่ประเภท แล้วฉีดยังไงให้หน้าไม่ Overfill และนอกจากนี้เรายังมีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็มจากทาง Sowon Clinic ด้วยค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่าจะเป็นยังไง งั้นเราไปชมกันเลยค่ะ!
3 ประเภทฟิลเลอร์ที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจฉีด!
ก่อนที่เราจะรู้จักเกี่ยวกับฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็ม เราต้องมาทำความรู้จักกับโปรแกรมฟิลเลอร์กันก่อนนะคะว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร
โปรแกรมฟิลเลอร์ หรือ Filler เป็นสารที่ใช้ในการเติมเต็ม ซึ่งในทางการแพทย์แล้ว ฟิลเลอร์มีหลายประเภทโดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ อันได้แก่
1. Hyaluronic acid หรือ HA
ซึ่งเป็นสารที่สามารถอุ้มน้ำได้ดี และนิยมใช้กันในการเติมเต็มด้วยค่ะ โดยสารชนิดนี้เป็นสารที่ร่างกายเราสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง และเมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายก็สามารถย่อยสลายสารนี้ออกไปได้เองอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายได้ประมาณ 6 ถึง 18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดที่ฉีด ซึ่งนอกจากนี้ ฟิลเลอร์ชนิดนี้ยังสามารถแบ่งตามโครงสร้างของโมเลกุลอีกด้วยค่ะ สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ แบบจับตัวเป็นก้อน (Cross-linked) และ แบบไม่จับตัวเป็นก้อน (Non Cross-linked)
ฟิลเลอร์แบบ Cross-linked เป็นสารชนิดที่จับตัวเป็นก้อน แบบเนื้อเจล นิยมใช้ในการ “เติมเต็ม” เพราะมีความคงรูป เหมาะกับการเสริมจุดต่าง ๆ เช่น คาง หน้าแก้ม หรือขมับ
ในขณะที่ Non Cross-linked ซึ่งเป็นสารที่ไม่จับตัวเป็นก้อน ยกตัวอย่างเช่น Juvelook หรือ Filorga มักจะใช้ใน “การฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว” มากกว่า เช่น ใต้ตา ผิวหมอง ผิวขาดน้ำ โดยจะไม่ทำให้ผิวโป่งหรือบวม แต่ช่วยให้ผิวแน่น กระชับ และดูอ่อนเยาว์อีกด้วยค่ะ
2. ซิลิโคนเหลว หรือฟิลเลอร์ปลอม
ถึงแม้ว่าจะจะมีชื่อว่า “ฟิลเลอร์” แต่สารชนิดนี้ไม่เหมาะกับการนำมาเติมเต็มที่บริเวณใบหน้าเลยนะคะ เพราะซิลิโคนเหลวเป็นสารที่อยู่ในรูปแบบของเหลวถาวร ไม่สามารถย่อยสลายได้ โดยส่วนใหญ่สารนี้จะอยู่ในฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงต่อการเกิดพังผืด อักเสบ หรือผิดรูปในระยะยาว หรือหากมีการฉีดผิดตำแหน่ง อาจไหลไปโดนตำแหน่งอื่นได้เลยนะคะ ในหลายกรณีจำเป็นต้องผ่าตัดออกเท่านั้น ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลและความเสียหายถาวรได้เลยค่ะ
3. แคลเซียมหรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
เป็นฟิลเลอร์ที่มักพบในต่างประเทศ โดยฟิลเลอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งตัวแคลเซียมสามารถใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการความยกกระชับได้ค่ะ

ซึ่งทั้งนี้ก่อนที่เราจะทำการเติมเต็มฟิลเลอร์บนใบหน้าของเรา แนะนำให้ปรึกษากับทางคุณหมอก่อนทำหัตถการทุกครั้ง และควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาติทางคลินิกได้ ปลอดภัยกับเรา ซึ่งที่ Sowon Clinic เรามีการประเมินใบหน้าเฉพาะบุคคลและใช้เทคนิคที่เหมาะสม ทุกเคสใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ที่สั่งตรงจากบริษัทยา แกะกล่องใหม่ให้เห็นต่อหน้า พร้อมกับสอนวิธีเช็กยาเองจากเลข อย. เพื่อให้ทุกท่านเกิดความมั่นใจและความปลอดภัยในการเติมเต็มฟิลเลอร์ค่ะ
เจาะลึก 8 ปัญหายอดฮิตบนใบหน้า ที่ฟิลเลอร์ช่วยได้
ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็มนี้ หลายคนอาจจะสงสัยกันว่า แล้วโปรแกรมฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid สามารถใช้ในการเติมเต็มจุดไหนได้บ้าง ขอบอกเลยนะคะว่าเจ้าตัวฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid หรือ HA ใช้เติมในจุดที่เกิดการยุบตัวเมื่ออายุมากขึ้น หรือเติมใต้ชั้นผิวหนังต่าง ๆ เพื่อเติมเต็ม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาโครงสร้างแต่ละจุดของใบหน้าแต่ละคนด้วยนะคะ ซึ่งเราได้รวบรวมปัญหาแต่ละจุดและการแก้ปัญหามาให้ทุกคนได้รับชมกันด้วยค่ะ ว่าปัญหาแบบไหนที่ควรได้รับการเติมเต็ม จะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลยค่ะ


1. ใต้ตาคล้ำ มีร่องลึก เกิดจากการทรุดตัวของชั้นกระดูกและชั้นไขมัน ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการเติมโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งชั้นลึก เพื่อ Support โครงสร้าง และเสริมด้วยการใช้เทคนิคพยุงเส้นเอ็นใต้ตา เพื่อให้แก้มยกและร่องแก้มดูตื้นขึ้นด้วยค่ะ
2. แก้มส้มแบน เกิดจากตรงหน้าแก้มไม่มีโครงสร้างในการพยุงหน้าแก้ม ทำให้เกิดโอกาสแก้มหย่อนคล้อยได้ง่าย สามารถแก้ได้ด้วยการใช้เทคนิคพยุงเส้นเอ็นให้แก้มยกขึ้น เพื่อให้เพื่อให้หน้าแก้มดูยกกระชับขึ้น มีวอลลุ่มมากขึ้นและที่สำคัญยังช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอีกด้วยค่ะ
3. แก้มตอบ เกิดจากร่องแก้มลึกและขาดวอลลุ่มจาก ชั้นสะสมไขมันทำให้หน้าดูมีมุมแข็งขึ้น โดยวิธีการแก้ไขสามารถทำได้ด้วยการวางฟิลเลอร์บนชั้นกระดูกและเติม fat support ในจุดสำคัญ เพื่อให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที หน้าเต็มขึ้น ดูหน้าละมุนขึ้น โหนกแก้มดูน้อยลงและเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
4. ขมับตอบ ขมับลึก ขาดความละมุน เนื่องจากเกิดการยุบตัวของชั้นไขมันจนขมับเกิดการทรุดตัว ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูแมน ซึ่งสามารถแก้ได้โดยการใช้เทคนิคการวางฟิลเลอร์ที่ชั้นกระดูกและไขมันชั้นลึก เพื่อพยุงเส้นเอ็นเหนือคิ้ว ช่วยให้ขมับที่ตอบดูเต็มขึ้น ใบหน้าละมุนขึ้น หน้าหวานขึ้นด้วยค่ะ
5. ร่องแก้มลึก ปัญหานี้เกิดจากไขมันชั้นลึกบริเวรหน้าแก้มเกิดหายไปและกระดูกแก้มยุบตัว ส่งผลให้โครงสร้างที่ช่วยในการพยุงร่องแก้มขาดหายไป โดยปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการเน้นการวางฟิลเลอร์ชั้นลึกเพื่อ support โครงสร้างบริเวณหน้าแก้ม แต่ถ้าเคสมีปัญหาเรื่องกระดูกหน้าแก้มร่วมด้วย สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์หนุนที่ชั้นกระดูกร่วมด้วย หลังทำร่องแก้มจะดูตื้นขึ้น หน้าแก้มดูยกกระชับขึ้น และทำให้หน้าดูสดใสขึ้น
6. ปากบาง ปากแห้ง ปากตกร่อง หรือปากไม่เป็นทรง หลายคนอาจจะแก้ปัญหาด้วยการเติมลิปให้เลยขอบปากหนามากขึ้น หรือดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากขาดวอลลุ่มและขาดความชุ่มชื้นของริมฝีปาก สาเหตุเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยเทคนิค Harmony of lips ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะที่ Sowon Clinic โดยทางทีมแพทย์มีการประเมินและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวและรูปทรงของปาก มีการดีไซน์ทรงปากให้เหมาะสมกับโครงหน้า ด้วยการเติมเต็มโปรแกรมฟิลเลอร์นี้ทำให้ปากอิ่มฟู หน้าละมุน ปรับสมดุลให้กับริมฝีปาก และที่สำคัญไม่เป็นก้อนเวลาขยับด้วยค่ะ
7. คางสั้น คางตัด คางย่น สาเหตุเกิดจากช่วงบริเวณกระดูกและกล้ามเนื้อรอบคางขาดการ Support ทำให้รูปคางดูย่น สามารถแก้ได้ด้วยการวางโปรแกรมฟิลเลอร์บนชั้นกระดูกและเติมเล็กน้อยในกล้ามเนื้อรอบคาง เพื่อให้คางได้รูป ใบหน้าเรียวยาว และหน้าละมุนมากขึ้นค่ะ
8. เส้นกรอบหน้าไม่ชัด เหนียงเยอะ เนื่องจากเกิดการทรุดตัวของชั้นกระดูกและเกิดไขมันสะสม ทำให้ใบหน้าดูกลมและเกิดความหย่อนคล้อย วิธีแก้ปัญหาคือการวางฟิลเลอร์ในตำแหน่งบริเวณกรอบหน้าและมุมกราม ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น หน้าดูเรียวขึ้นและคมชัดขึ้นด้วยค่ะ
โดยปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยโปรแกรมแกรมฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid ซึ่งทั้งนี้ก่อนทำหัตถการนี้ควรมีการปรึกษากับทางแพทย์ทุกครั้งก่อนทำนะคะเพราะแต่ละคนมีโครงสร้างของใบหน้ารวมถึงกล้ามเนื้อที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ Sowon Clinic ใช้เทคนิคในการประเมินปัญหาใบหน้าของแต่ละบุคคลจากนั้นใช้เทคนิคในการวางฟิลเลอร์ที่พอดี ซึ่งหลังจากการเติมเต็มจะได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ และไม่เป็นก้อนอีกด้วยค่ะ
เตือนภัย “ฟิลเลอร์ล้น” อันตรายกว่าที่คิด!
ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเติมฟิลเลอร์ที่ “พอดี” กับใบหน้าด้วยนะคะ เพราะถ้าหากเติมในปริมาณที่มากเกินไป หรือเติมซ้ำจนล้นโดยไม่วิเคราะห์ให้ดี อาจทำให้เกิดภาวะ Filler Overfilled Syndrome ได้เลยนะคะ
ภาวะ Filler Overfilled Syndrome หรือ “ภาวะหน้าล้นจากการเติมฟิลเลอร์” เกิดจากการเติมเต็มฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากจนเกินไป จนทำให้หน้าตึง , ขาด Contour และขาดเงาไป กลายเป็นหน้าขนมปัง (Bread face) ได้ค่ะ หรือเติมจนใบหน้าดูแน่น กลม ละลายมิติเดิมของใบหน้าคล้ายหมอน (Pillow Face) นั่นเองค่ะ ซึ่งนอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้เกิด Overfill เนื่องจากคุณหมอแก้ปัญหาของเหตุไม่ถูกต้อง ไม่ประเมินโครงสร้างเชิงลึก เกิดการฉีดสะสมเรื่อย ๆ จนทำให้ใบหน้าดูล้นนั่นเองค่ะ

แต่ที่โซวอนคลินิกเราไม่ทำให้หน้าคุณกลายเป็น Bread Face หรือ Pillow Face แน่นอนค่ะ เพราะทางเราใช้หลักการวิเคราะห์โครงสร้างของใบหน้า กล้ามเนื้อ และปัญหาก่อนวางแผนเติมฟิลเลอร์ทุกเคสเลยค่ะ แถมยังใช้ 3 เทคนิคพิเศษเฉพาะที่ Sowon Clinic อย่างเทคนิคการพยุงเส้นเอ็นของใบหน้า (Facial Ligament Support) , เทคนิคการวางฟิลเลอร์ในชั้นลึก (Deep Fat & Bone Support) และเทคนิคสุดท้ายอย่าง เทคนิคการปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ (Myomodulation) ด้วยค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่หน้าแข็ง ไม่ล้น และปรับสมดุลให้ใบหน้าละมุนขึ้นด้วยค่ะ
3 เทคนิคฟิลเลอร์เฉพาะ Sowon Clinic ที่ช่วยให้หน้าไม่โป๊ะ!
หลาย ๆ คนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้คงสงสัยกันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ ว่าที่ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็มนี้ที่ Sowon Clinic ใช้เทคนิคอะไรในการเติมเต็มโปรแกรมฟิลเลอร์นี้ ซึ่งที่คลินิกของเราใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะ 3 เทคนิคอันได้แก่
1. เทคนิคการพยุงเส้นเอ็นของใบหน้า (Facial Ligament Support) การเติมฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็ม ด้วยเทคนิคนี้จะช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า โดยจะเน้นการเติมในชั้นกลางของใบหน้า (Midface) และส่วนล่างของใบหน้า ตั้งแต่ปลายจมูกลงไปจนถึงคาง (Lower face) ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับ สดใส อ่อนเยาว์ด้วยค่ะ
2. เทคนิคการวางฟิลเลอร์ในชั้นลึก (Deep Fat & Bone Support) โดยเทคนิคเฉพาะนี้จะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีโครงสร้าง ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน เริ่มตั้งแต่การแก้ไขปัญหาที่ไขมันชั้นลึก และชั้นกระดูก ซึ่งที่ Sowon Clinic เราจะใช้เทคนิคการวางฟิลเลอร์ให้พอดีกับปัญหาของเคส ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่แบน ไม่เป็นคลื่น และลดการเคลื่อนตัวของโปรแกรมฟิลเลอร์ด้วยค่ะ ซึ่งถึงแม้ว่าทางคลินิกจะใช้ในปริมาณไม่มาก แต่ใบหน้าละมุนขึ้น อ่อนเยาว์ขึ้น และยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนแถมไม่โป๊ะอีกด้วยนะคะ
3. เทคนิคการปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ (Myomodulation) สำหรับเทคนิคการเติมโปรแกรมฟิลเลอร์นี้จะเป็นการปรับแก้ไขแรงกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล เช่น Gummy Smile หรือคางย่น ซึ่งไม่ใช่แค่การเติมเต็มเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่เป็นการออกแบบการเคลื่อนไหวของใบหน้าใหม่ เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานอย่างสมดุลมากขึ้น แสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเทคนิคนี้ต้องอาศัยความเข้าใจโครงสร้างของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง และใช้หลักการ MD DYNA Code ซึ่งเป็นหลักการเพื่อวิเคราะห์แรงกล้ามเนื้อ จุดสมดุล และแกนการเคลื่อนไหวบนใบหน้า ก่อนจะวางตำแหน่งฟิลเลอร์ให้ทำหน้าที่ช่วยพยุงกล้ามเนื้อให้ทำงานอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยค่ะ ทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย สดใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมลิฟต์ใบหน้าโดยไม่ทำให้ใบหน้าไม่แข็ง ไม่โป๊ะ และไม่ผิดธรรมชาติด้วยค่ะ

ทำไมต้องฟิลเลอร์ที่ Sowon Clinic?
ข้อสงสัยเกี่ยวกับฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็มยังไม่หมดค่ะ เพราะเรายังมีจุดเด่นของการเติมเต็มฟิลเลอร์ที่
Sowon Clinic ด้วยนะคะ ว่า “ทำไมถึงต้องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ที่โซวอน แล้วต่างจากที่อื่นยังไง อยู่ได้นานมั้ย”
ขอบอกเลยค่ะว่าที่ Sowon Clinic ของเราไม่ใช่การเติมจนล้น ไม่ใช่การเติมแบบไม่วิเคราะห์ แต่เรามีการวางแผนอย่างละเอียดและใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินใบหน้าต้องมีการประเมินใบหน้าเฉพาะบุคคลเพราะเนื่องจากแต่ละคนมีโครงสร้างใบหน้า กล้ามเนื้อ ที่แตกต่างกัน , ทุกเคสมีการใช้ฟิลเลอร์ที่สั่งตรงจากบริษัทยาโดยก่อนทำจะมีการแกะกล่องใหม่ให้เห็นต่อหน้า พร้อมกับสอนวิธีเช็กยาเองจากเลข อย. เพื่อให้ทุกท่านเกิดความมั่นใจและความปลอดภัยในการทำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ลูกค้าทุกคนจะได้คือผิวดูอิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้าดูสมดุลและอ่อนเยาว์อยู่ได้นาน 1–2 ปี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเป็นก้อนหรือยาไม่สลาย เพราะโปรแกรมฟิลเลอร์ที่ใช้จะถูกดูดซึมไปอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญ หลังฉีดคุณหมอจะติดตามผลอย่างใกล้ชิดทุกเคส ทำให้ให้มั่นใจได้เลยว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณหมอได้ออกแบบตั้งแต่แรก ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่โป๊ะ และไม่เป็นก้อนอีกด้วยค่ะ
จึ้งจนตาแตก! ราคาโปรแกรมฟิลเลอร์
หลายคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้คงอยากทราบราคากันแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่า “ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็มที่ Sowon Clinic ราคาเท่าไหร่ ,ฟิลเลอร์ ราคาแพงมั้ย?” บอกเลยค่ะว่าฟิลเลอร์ ราคาไม่แพงอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ เพราะที่โซวอนคลินิกเรามีโปรแกรมฟิลเลอร์ที่เป็นที่นิยมแถมแต่ละยี่ห้อราคาสามารถเข้าถึงได้ค่ะ แถมตอนนี้! ที่คลินิกเรายังมีราคาที่จึ้งจนตาแตกมาให้ทุกคนด้วยค่ะ สามารถดูรายละเอียดฟิลเลอร์ ราคาโปรโมชั่นที่ข้างล่างนี้เลยค่ะ
เติมจริง รีวิวจริง จากลูกค้า Sowon Clinic
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ “ฟิลเลอร์มากกว่าการเติมเต็ม” ได้คลายข้อสงสัยให้ใครหลาย ๆ คนเลยใช่มั้ยล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์คืออะไร มีกี่ประเภท ฉีดจุดไหนได้บ้าง หรือจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ล้นเกินจนกลายเป็นภาวะ Bread Face หรือ Pillow Face ก็ตาม แต่ถ้าใครไม่อยากให้เกิดแบบนั้น ที่ Sowon Clinic เรามีแนวทางในการแก้ไขและออกแบบใบหน้าที่ไม่ใช่แค่การฉีดเพื่อการเติมเต็ม แต่เป็นการวางแผนแบบเฉพาะบุคคล ตั้งแต่การวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้า กล้ามเนื้อ ปัญหา ไปจนถึงการเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละคนอย่างแท้จริง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูละมุน มีวอลลุ่มพอดี ไม่เป็นก้อน และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
หากใครที่กำลังมองหาการเติมเต็มที่ไม่ล้น ไม่โป๊ะ แต่เน้นผลลัพธ์ที่สมดุล เข้ากับใบหน้า และปลอดภัยในระยะยาว ที่ Sowon Clinic เราพร้อมเสิร์ฟความละมุนให้คุณด้วยเทคนิคพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะค่ะ
ดูบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับหัตถการอื่น คลิกเล๊ย!

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน












































