กาลเวลายิ่งผ่านไปนาน ผิวหน้ายิ่งร่วงโรยจนกลายเป็นปัญหาผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว อันเป็นสัญญาณแห่งวัยที่หลายคนไม่อยากจะเผชิญ มาดูแลพร้อมฟื้นฟูปัญหา Skin Aging ให้ตรงจุด ด้วยนวัตกรรมความงามอย่างโปรแกรม Ulthera เครื่องยกกระชับด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) พร้อมตอบชัดทุกข้อสงสัยก่อนตัดสินใจเริ่มทำสวยในโปรแกรมนี้
โปรแกรม Ulthera ต่างจากเครื่องยกกระชับอื่น ๆ อย่างไร ?
Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวชั้น SMAS ด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (Focused Ultrasound) ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือบาดเจ็บที่ผิวหนัง พร้อมมอบผลลัพธ์ผิวหนังกระชับ เรียบเนียน ปรับรูปหน้าให้กรอบหน้าคมมากขึ้น ซึ่งต่างจากนวัตกรรมยกกระชับอื่น ๆ ที่โฟกัสได้แค่ผิวชั้นตื้น หรือแตกต่างกันที่ขนาดจุดโฟกัส ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลา ทำให้ Ulthera กลายเป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นมาเพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย รวมถึงปัญหาริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าได้อย่างแท้จริง
ระดับความลึกของพลังงาน
- ระดับลึก 1.5 มม. ชั้น Dermis เหมาะสำหรับลดริ้วรอยบนใบหน้าชั้นบน
- ระดับลึก 3.0 มม. ผิวชั้นกลาง เหมาะสำหรับยกกระชับชั้นไขมันบริเวณผิวหน้า แก้ม เหนียง และลำคอ
- ระดับลึก 4.5 มม. สำหรับผิวในชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) อยู่ลึกสุดของโครงสร้างผิวและมีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบสูงที่สุด เป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
Ulthera ช่วยเรื่องอะไร ?
Ulthera ไม่เพียงแค่ยกกระชับผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ที่สำคัญคือสามารถปรับรูปหน้าให้เป็นรูปตัว V ที่ดูเรียวสวย พร้อมทั้งลดเหนียงและความหย่อนคล้อยบริเวณคอได้อย่างเห็นผล
เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน ?
Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ มีริ้วรอยหรือร่องลึกที่ต้องการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแต่ไม่อยากผ่าตัด นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวบริเวณคอและใต้คางหย่อนคล้อย หรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น Ulthera จึงเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนต้องทำกี่ช็อต ทำส่วนไหนบ้าง ต้องให้แพทย์เป็นผู้วิเคราะห์และออกแบบแผนการยิงช็อตที่เหมาะสม โดยโปรแกรมนี้จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรม
ข้อดีของ Ulthera
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- เห็นผลลัพธ์ทันทีและต่อเนื่อง
- มีความปลอดภัยสูงเพราะได้รับการรับรองจาก FDA
- ใช้เวลาทำไม่นานและไม่ต้องพักฟื้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
ข้อจำกัดของ Ulthera
- อาจมีอาการปวดหรือแสบร้อนระหว่างทำ
- ราคาค่อนข้างสูง
- อาจต้องทำซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
- ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
- อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังทำ
- ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนเข้ารับการรักษา
จะเห็นได้ว่าโปรแกรม Ulthera นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดคอลลาเจน และมีริ้วรอยร่องลึกแบบเริ่มต้น แต่ไม่ต้องการทำศัลยกรรม เพราะโปรแกรมนี้จะช่วยยกชั้นผิวได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ใช้ผ่าตัดยกกระชับหน้า จึงมอบผลลัพธ์ได้ดี ปลอดภัย และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
Q&A เคลียร์ชัดทุกคำตอบของการทำ Ulthera
Q: ทำ Ulthera เห็นผลทันทีไหม กี่วันเห็นผล ?
A: หลังทำทันทีจะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงประมาณ 30% และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนใน 3 เดือน อย่างไรก็ตามการทำ Ulthera อาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่จะหายเองได้ใน 2-3 วัน ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ
Q: ทำ Ulthera เจ็บไหม ?
A: อาจมีความรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ในบริเวณที่ทำ แต่โดยทั่วไปแพทย์จะทายาชาในบริเวณที่ต้องทำหัตถการอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมาก แต่จะเป็นความอุ่น หรือเจ็บเล็กน้อยในบางบริเวณ ซึ่งนับได้ว่าเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ และระดับความเจ็บก็จะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Q: ทำ Ulthera อยู่ได้นานไหม อยู่ได้กี่เดือน ?
A: อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี โดยจะขึ้นอยู่กับค่าพลังงานที่ใช้ หากคนไข้สามารถทนเจ็บไหว และดูแลผิวหลังทำเป็นอย่างดี ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและอยู่ได้นานมากขึ้น
Q: Ulthera สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง ?
A: Ulthera สามารถทำได้ทั้งใบหน้าและลำตัวที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ มีริ้วรอย หย่อนคล้อย เช่น ใบหน้า, ใต้ตา, ใต้คาง, หน้าอก, ท้องแขน และหน้าท้อง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการยกคิ้ว กระชับเหนียง และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย
Q: Ulthera ทั่วหน้าต้องทำกี่ช็อต ?
A: จำนวนช็อตของ Ulthera ทั่วหน้า จะประเมินตามสภาพและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล โดยจะวางแผนใช้ช็อตตามความเหมาะสมในแต่ละส่วน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 300-800 ช็อต ขึ้นอยู่กับการประเมิน และสำหรับจำนวนช็อตทั่วหน้าและเหนียง จะอยู่ที่ประมาณ 800-1,200 ช็อต ทั้งนี้ จำเป็นต้องเข้ารับการประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน เพื่อใช้จำนวนช็อตที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผิว
Q: Ulthera ทำซ้ำได้ไหม ผลลัพธ์ดีขึ้นจริงไหม ?
A: สามารถทำซ้ำได้เรื่อย ๆ โดยไม่เป็นอันตราย และไม่มีผลข้างเคียง โดยช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ หรือหากต้องการเห็นผลการยกกระชับที่ดีมากขึ้นก็สามารถทำซ้ำได้ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่น ตึง กระชับ และเรียบเนียนได้อย่างชัดเจน
Q: ดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera อย่างไรดี ?
A: หลังทำ Ulthera สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ควรดูแลผิวอย่างเหมาะสม โดยการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- งดบีบ กด นวด หรือถูใบหน้าแรง ๆ ในจุดที่ทำหัตถการ
- สามารถแต่งหน้า ทาครีม ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เน้นบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- หมั่นทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและแสงแดดจัด ๆ 2 สัปดาห์
- เลี่ยงความร้อน เช่น สตีม ซาวน่า สปา อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ไม่ควรทำเลเซอร์ร้อนที่ผิวชั้นลึกทุกชนิด เป็นเวลา 1 เดือน
บอกลาผิวไม่กระชับที่ร่วงโรยตามกาลเวลา ด้วยโปรแกรม Ulthera SPT ตัวช่วยยกกระชับผิวที่ยิงลงลึกถึงชั้น SMAS ให้คุณปลื้มปริ่มกับผลลัพธ์ผิวดูแน่นเฟิร์ม ปรับหน้าเรียวได้รูปที่ปลอดภัย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการที่โซวอนคลินิก หากสนใจหรือต้องการสอบถามรายละเอียดบริการและโปรโมชันเพิ่มเติมติดต่อได้เลยที่ LINE: @sowonclinic
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน