ยกกระชับหน้า ด้วยการร้อยไหม ถือเป็นหัตถการยอดฮิตที่ ตอบโจทย์ ใครหลายคนในยุคนี้เลยค่ะ เพราะช่วยแก้ปัญหากระเปาะแก้มห้อย ให้กลับมาดูเฟิร์ม ปรับรูปหน้าให้หน้าเรียววีเชฟขึ้น กรอบหน้าชัดสวยได้ดั่งใจ
แต่! หลายคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า… ความเชื่อที่ว่า “ยิ่งร้อยเยอะยิ่งดี” หรือ “ต้องดึงแรง ๆ ถึงจะยก” มันจริงไหม? แล้วถ้าเราเจอเทคนิคการร้อยแบบไม่ล็อกไหม จะเกิดผลเสียอะไรตามมาบ้าง?
วันนี้ Sowon Clinic เลยจะขออาสาพามาเปิดเผย “ด้านมืดของการร้อยไหม” ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อให้เราสวยอย่างปลอดภัย รู้ทันก่อนตัดสินใจทำ จะมีเรื่องอะไรบ้างที่เราต้องระวัง ไปดูกันเลยค่ะ!
ถ่ายรูปแล้วหน้าดูไม่มีมิติ? เช็กด่วน! สาเหตุแก้มห้อย กรอบหน้าหาย ที่หลายคนมองข้าม
เชื่อว่าหลายคนคงเคยสังเกตตัวเองหน้ากระจก แล้วรู้สึกว่าช่วงนี้ กรอบหน้าไม่ชัด หรือเริ่มเห็น เหนียง โผล่ออกมา ยิ่งเวลาเผลอก้มหน้าถ่ายรูปทีไร ก็รู้สึกว่าหน้าดูตัน ๆ ไม่มีมิติเหมือนเก่า
หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเพราะ “อ้วนขึ้น” มีไขมันเยอะ หรือกรามใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วตัวการสำคัญที่หลายคนมองข้ามก็คือ “ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย” นั่นเองค่ะ
สาเหตุหลักมาจากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น คอลลาเจนที่เคยทำหน้าที่พยุงผิวก็ค่อย ๆ ลดน้อยลง บวกกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการ นอนดึก การก้มหน้าเล่นมือถือนาน ๆ หรือแม้แต่ แรงโน้มถ่วงของโลก สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้แก้มที่เคยตึงกระชับ ไหลตกลงมาทำให้แนวกรามดูไม่คม ใบหน้าจึงดูอ่อนล้าและดูมีอายุขึ้น

และหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่ “เห็นผลชัดเจนที่สุด” และเป็นหัตถการยอดฮิตสำหรับการ ยกกระชับหน้า ก็คือ “การร้อยไหม” ค่ะ
เพราะตัวเส้นไหมจะเข้าไปทำหน้าที่เสมือนโครงสร้างที่ช่วยพยุงผิวจากด้านใน ดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกลับขึ้นทันที! พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน ใหม่อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูเฟิร์มขึ้น เต่งตึง แข็งแรง และที่สำคัญคือ ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น กรอบหน้าชัด มีมิติขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นเลยค่ะ
ร้อยไหมคืออะไร? ทำไมถึงเป็นตัวเลือกของคนอยากหน้าเป๊ะโดยไม่ต้องผ่าตัด
ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด แก้มเริ่มตก แต่ยังไม่อยากถึงขั้นผ่าตัด “การร้อยไหม” คือหนึ่งในหัตถการที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงนี้ค่ะ
โปรแกรมร้อยไหม (Thread Lift) เป็นการยกกระชับหน้าและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งคุณหมอจะใช้เส้นไหมชนิดพิเศษร้อยเข้าสู่ชั้นผิวในตำแหน่งที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม โดยเส้นไหมจะทำหน้าที่เกี่ยวและพยุงผิวให้ยกขึ้นตามทิศทางที่ต้องการ ทำให้เห็นผลลัพธ์เรื่องความตึงกระชับได้ทันทีหลังทำ กรอบหน้าชัดขึ้น แก้มห้อยและกระเปาะแก้มที่เคยเด่นก็ดูเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ


มากกว่านั้น การร้อยไหมไม่ได้ให้ผลแค่การ “ดึงผิวขึ้น” เท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ผิว รอบ ๆ เส้นไหมอีกด้วย เมื่อร่างกายรับรู้ถึงเส้นไหม จะเกิดกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้ผิวค่อย ๆ แน่นขึ้น เต่งตึงขึ้น และดูอิ่มฟูสุขภาพดีในระยะยาว แม้หลังจากที่เส้นไหมสลายไปแล้ว โครงสร้างผิวก็ยังดูแข็งแรงกว่าก่อนทำค่ะ
ด้วยเหตุนี้ ใบหน้าหลังร้อยไหมจึงไม่ได้ดูตึงแค่ช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวดูเรียบเนียน ไม่โทรม ไม่หย่อนง่าย เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับหน้าไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูคุณภาพผิว
อย่างไรก็ตาม การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความแม่นยำและความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก หากวางไหมผิดชั้น ใช้ไหมที่ไม่ได้คุณภาพ หรือออกแบบทิศทางการร้อยไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาผิวเป็นคลื่น หน้าเบี้ยว หรือภาวะที่หลายคนกังวลอย่าง “หน้าเป็นสตรอว์เบอร์รี” ได้
เพราะฉะนั้น การเลือกคลินิกที่มีประสบการณ์ ใช้เส้นไหมคุณภาพดี และมีเทคนิคการร้อยไหมที่ได้มาตรฐาน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยกกระชับจริง ผิวแน่นขึ้นจากคอลลาเจนที่สร้างใหม่ และที่สำคัญคือปลอดภัยในระยะยาวค่ะ
ด้านมืดของการร้อยไหม ที่หลายคนต้องระวัง!
1. ร้อยไหมเยอะ ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจคิดว่า “ยิ่งร้อยเยอะ ๆ หน้าต้องยิ่งตึง ยิ่งเป๊ะ” ใช่ไหมคะ? แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่สำคัญมากกว่าจำนวนเส้นไหม คือ “แรงดึงที่พอดีและสมดุลกับใบหน้า” ค่ะ
หากคุณหมอวางแผนจำนวนเส้นได้ไม่ตรงกับปัญหา หรือใช้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่ชัดเจน แถมระยะเวลาในการพยุงผิวก็จะสั้นลงด้วย เพราะแรงดึงไม่สมดุลกัน
ดังนั้น ก่อนร้อยไหมทุกครั้ง จึงต้องมีการประเมินรูปหน้าอย่างละเอียดค่ะ ว่ามีผิวหน้าหย่อนคล้อยมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกใช้จำนวนเส้นที่ “พอดี” ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และที่สำคัญคือต้อง วางไหมให้ถูกชั้นผิว วิธีนี้จะช่วยยกกระชับหน้า กรอบหน้าชัดเรียวสวย เต่งตึงในระยะยาว หมดกังวลเรื่องปัญหาหน้าห้อยหรือหน้าตกไปได้เลยค่ะ
2. แรงดึงต้องพอดี ไม่รั้งจนหน้าเป็นคลื่น หลายคนเข้าใจผิดว่าการร้อยไหมต้องดึงแรง ๆ หน้าถึงจะยก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดเลยค่ะ! เพราะการดึงที่ตึงเกินปัญหาของผิว นอกจากจะเสี่ยงทำให้ไหมขาดและอักเสบแล้ว ยังอาจทำให้ผิวหน้าเกิดรอยบุ๋ม ขรุขระเป็นคลื่น หรือที่เรียกว่า “หน้าเป็นลูกสตรอว์เบอร์รี” ดูไม่ละมุนได้ค่ะ ดังนั้น หัวใจสำคัญคือการใช้แรงดึงที่นุ่มนวลแต่กระชับ พอดีกับสภาพผิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่หน้าเรียวสวย ผิวเรียบเนียน ไม่เสี่ยงหน้าพังค่ะ
3. การล็อกไหม หัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ เทคนิคการ “ล็อกไหม” ถือเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ สำหรับการร้อยไหมเลยค่ะ เพราะถ้าหากร้อยโดยไม่มีจุดยึดเกาะที่แข็งแรง หรือวางไหมผิดชั้น อาจทำให้ไหมเกิดการเคลื่อนตัว หรือหลุดจากตำแหน่งได้ง่าย ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่อยู่ทน หรือหน้ากลับมาหย่อนคล้อยเร็วกว่าเดิม ดังนั้นเทคนิคการวางตำแหน่งและการล็อกไหมที่แม่นยำของคุณหมอ จึงเป็นตัวช่วยการันตีว่าหน้าจะยกสวยและอยู่กับเราได้นานค่ะ
3 เทคนิคช่วยให้กรอบหน้าชัด หน้าเรียว และยกกระชับหน้า ที่ Sowon Clinic
หลังจากที่หลายคนได้รู้จัก “ด้านมืดของการร้อยไหม” กันไปแล้ว เชื่อว่าคำถามที่ตามมาคงหนีไม่พ้น “ถ้าเรามีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย กระเปาะแก้มชัด จะร้อยไหมที่ไหนดี ถึงจะไม่เกิดหน้าเป็นคลื่น?”
แอดมินขอบอกเลยค่ะว่า ผลลัพธ์ของการร้อยไหมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเส้นไหมอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ เป็นหลัก ที่ Sowon Clinic เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน และใช้ 3 เทคนิคหลักในการออกแบบการร้อยไหม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยกกระชับหน้าจริง ดูสวยเป็นธรรมชาติ และปลอดภัยในระยะยาวค่ะ
1. ประเมินใบหน้าอย่างละเอียด วางแผนเฉพาะบุคคล
ก่อนร้อยไหม ทีมแพทย์ของ Sowon Clinic จะทำการประเมินโครงสร้างใบหน้า ปัญหาผิว และระดับความหย่อนคล้อยอย่างละเอียด เพื่อกำหนดจำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมและพอดีกับใบหน้าแต่ละคน พร้อมออกแบบทิศทางการร้อยไหมแบบเฉพาะบุคคลค่ะ
ที่สำคัญคือการเลือกวางไหมใน “ชั้นผิวที่ถูกต้อง” เพราะเมื่อวางไหมถูกชั้น จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด หน้าเรียวขึ้น และยังช่วยให้ผิวดูเต่งตึงในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหน้าหย่อนคล้อยหรือหน้าตกตามมา
2. ร้อยไหมและดึงด้วยแรงที่พอดี หน้าเรียวแต่ยังเป็นธรรมชาติ
อีกหนึ่งจุดสำคัญคือแรงในการดึงไหม คุณหมอจะปรับแรงดึงให้เหมาะสมกับโครงหน้า ไม่ดึงแรงเกินไปจนดูแข็ง หรือเบาเกินไปจนไม่เห็นผล เพื่อให้ใบหน้ายกกระชับ ปรับรูปหน้าให้ดูเฟิร์มขึ้น แต่ยังคงความละมุน ดูเป็นธรรมชาติ
เทคนิคนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่หลายคนกังวล เช่น ผิวเป็นคลื่น หน้าไม่เท่ากัน หรือภาวะ “หน้าเป็นลูกสตรอว์เบอร์รี” ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูสวย ไม่โป๊ะ และไม่ฝืนหน้าเดิมค่ะ
3. ล็อกไหมให้อยู่ในตำแหน่งที่วางแผนไว้ เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน
หลังจากร้อยไหมเสร็จ แพทย์จะทำการล็อกไหมให้อยู่ในแนวที่ออกแบบไว้ตั้งแต่แรก ช่วยให้ไหมยึดเกาะได้ดี ลดอาการบวมและช้ำ ฟื้นตัวไว และเห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น
ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6–12 เดือน พร้อมช่วยพยุงผิวไม่ให้กลับมาหย่อนคล้อยง่าย ใบหน้าจึงดูตึงกระชับและเข้ารูปได้นานขึ้นค่ะ
ด้วยทั้ง 3 เทคนิคนี้ หลังร้อยไหมที่ Sowon Clinic คุณจะได้ผลลัพธ์เป็น กรอบหน้าชัด หน้าเรียวขึ้น ยกกระชับหน้าแบบยังคงความเป็นตัวคุณ ดูสวยละมุน ไม่แข็ง ไม่โป๊ะ และดูเป็นธรรมชาติในทุกมุมค่ะ
เผยราคา!!! ร้อยไหม ราคาเท่าไหร่ ที่ Sowon Clinic บอกหมดไม่มีกั๊กแน่นอน!
อ่านจนถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะเริ่มกำลังมองหาราคากันแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่า ร้อยไหม ราคาเท่าไหร่ แล้วแต่ละเส้นแพงมั้ย แอดมินบอกเลยค่ะว่าที่ Sowon Clinic เรามีราคาสำหรับโปรโมชั่นเพื่อให้ทุกคนได้เลือกกันแล้วค่ะ เราไปดูกันเลยค่ะว่ามีราคาไหนกันบ้าง!
– จำนวน 4 เส้น ราคา 9,900.- (จากปกติ 20,000)
– จำนวน 6 เส้น ราคา 14,800.- (จากปกติ 30,000)
– จำนวน 8 เส้น ราคา 19,700.- (จากปกติ 40,000)
ซึ่งหากใครที่ไม่รู้ว่าปัญหาใบหน้าของตัวเองควรใช้จำนวนกี่เส้นดี สามารถถ่ายภาพและส่งมาให้ทางเราประเมินใบหน้าได้เลยนะคะ เพราะทางเราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ใช้เส้นไหมที่สั่งตรงจากบริษัทผู้ผลิต เลือกใช้จำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมกับปัญหา และใช้เทคนิคการร้อยไหมที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ยกกระชับขึ้น หน้าเรียวขึ้น แต่ยังคงความเป็นตัวคุณและไม่ทำให้หน้าเป็นคลื่นอีกด้วยค่ะ สุดท้ายนี้หากใครที่ไม่รู้ว่าจะร้อยไหมที่ไหนดี Sowon Clinic พร้อมเป็น 1 ทางเลือกสำหรับการยกกระชับหน้าค่ะ
Q&A รวมคำถามยอดฮิต “เรื่องร้อยไหม” ที่คนอยากทำต้องรู้! ✨
ร้อยจริงยกจริง ด้วยรีวิวร้อยไหมที่ Sowon Clinic
สามารถติดตาม / สอบถามรายละเอียด

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน








