ฉีดโบท็อกซ์ ถือว่าเป็นหัตถการยอดฮิตในตอนนี้ เพราะนอกจากจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อแล้ว ยังทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น ริ้วรอยดูจางลง แถมยังช่วยลดเหงื่อบริเวณรักแร้ได้อีกด้วยค่ะ แต่เอ๊ะ! แล้วตอนไหนที่เราควรฉีดโบท็อกซ์ดี?
วันนี้ Sowon Clinic เลยพาทุกคนมาเช็คสัญญาณเตือน 3 ข้อ ว่าถึงเวลาที่ควรฉีดโบหรือยัง อีกทั้งยังรวมคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมโบท็อกซ์ไว้ให้ด้วย จะมีอะไรบ้างเรามาชมกันเลยค่ะ
โบท็อกซ์คืออะไร?
การฉีดโบท็อกซ์ คือการใช้สาร Botulinum Toxin Type A ฉีดเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งสาร Acetylcholine (อะเซทิลโคลีน) ในปลายประสาท ทำให้การส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อลดและคลายตัวชั่วคราว โดยโปรแกรมโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ ค่อย ๆ เล็กลง ส่งผลให้กรามเรียวขึ้น กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้แก้ปัญหาการหลั่งของต่อมเหงือบริเวณรักแร้ (ด้วยการฉีดโบท็อกซ์รักแร้) รวมถึงปรับลดขนาดกล้ามเนื้อน่องให้ดูเรียวเล็กลงได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งที่ Sowon Clinic เราจะใช้เทคนิค Tailor Made หรือเทคนิคการตัดสูท ปรับปริมาณยาให้เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละคน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่พอดี แลดูเป็นธรรมชาติ สามารถแสดงสีหน้าได้เต็มที่ ไม่แข็ง ตึง โป๊ะ แน่นอนค่ะ
โบท็อกซ์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1. โบกราม จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม (Masseter Reduction / Jaw Slimming)
โดยการทำโปรแกรมโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อบดเคี้ยว (Masseter) สามารถช่วยลดความเด่นของกล้ามเนื้อและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
2. โบริ้วรอย ช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic Wrinkles)
จะแสดงผลลัพธ์ชัดในบริเวณหางตา หน้าผาก และรอยตีนกา เพราะตัวโปรแกรมโบท็อกซ์จะช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย ส่งผลให้ริ้วรอยดูจางลง และเรียบเนียนขึ้น
3. โบลิฟกรอบหน้า/การปรับรูปหน้า (Botox Lifting/Contouring)
จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ที่เฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อขมับ กล้ามเนื้อเพลทิสมา และใบหน้าส่วนล่าง ทำให้เกิดการ ”ยก” หรือปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
4. ช่วยลดต่อมเหงื่อที่บริเวณรักแร้ (Hyperhidrosis) โดยการฉีดโบท็อกซ์รักแร้ จะใช้ในการรักษาภาวะเหงื่อออกที่รักแร้มากผิดปกติ โดยหลังจากฉีดโบท็อกซ์จะไปยับยั้งการปล่อยสาร Acetylcholine ที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้การทำงานของต่อมเหงื่อลดน้อยลง
5. ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง (Calf Slimming Via gastrocnemius reduction) โดยการฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณกล้ามเนื้อน่อง เหมาะกับผู้ที่ “น่องโตจากกล้ามเนื้อ” ไม่ใช่ไขมันหรือโครงกระดูก โดยหลังจากฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดน้อยลง และค่อย ๆ หดตัวลง
3 สัญญาณเตือนว่าควรฉีดโบท็อกซ์หรือยัง?
1. กัดกรามแล้วกล้ามเนื้อกรามเด้ง
เวลาที่คุณกัดฟันหรือเคี้ยวอาหาร แล้วเห็นก้อนกล้ามเนื้อกรามเด้งออกมาอย่างชัดเจน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาฉีดโบท็อกซ์กรามหรือโบหน้าเรียวพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกรามแล้วค่ะ
2. ริ้วรอยชัดแม้ไม่แสดงสีหน้า
ไม่ว่าจะเป็นขมวดคิ้ว เลิกคิ้ว หรือแม่ไม่ได้แสดงสีหน้า แต่ริ้วรอยยังเห็นชัดเป็นเส้นอยู่ นี่บอกได้เลยค่ะว่าคุณอาจจะต้องเริ่มโบท็อกซ์ริ้วรอยเพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเพื่อให้ริ้วรอยดูจางลงค่ะ
3. กรอบหน้าไม่ชัดหรือมีความหย่อนคล้อย
หากคุณรู้สึกว่ากรอบไม่ชัด หรือใบหน้าหย่อนคล้อย การฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้าก็จะช่วยให้หน้าดูกระชับและชัดขึ้นได้ค่ะ
ซึ่งถ้าหากคุณมีอาการเหล่านี้ นั่นคือสัญญาณว่าถึงเวลาฉีดโบท็อกซ์แล้วค่ะ และถ้าไม่แน่ใจ ก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ Sowon Clinic เพื่อประเมินกล้ามเนื้อของใบหน้าและเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับคุณค่ะ
FAQ 7 คำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมโบท็อกซ์
อยู่ได้นานกี่เดือน
การฉีดโบท็อกซ์ หลายๆ คนอาจจะกำลังสงสัยกันอยู่กันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ ว่า “โปรแกรมโบท็อกซ์ อยู่นานกี่เดือน?” ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อที่เลือกใช้ และการดูแลหลังทำด้วยนะคะ ซึ่งแอดมินได้ลิสต์แต่ละยี่ห้อมาให้ชมกันแล้วค่ะ จะมียี่ห้อไหนบ้าง เรามาชมกันเลยค่ะ!
คุณสมบัติ | Nabota | Aestox | Allergan | Xeomin |
ประเทศผู้ผลิต | เกาหลีใต้ | เกาหลีใต้ | สหรัฐอเมริกา | เยอรมนี |
อยู่ได้นานกี่เดือน? | อยู่ได้นาน 4-6 เดือน | อยู่ได้นาน 4-6 เดือน | อยู่ได้นานถึง 8 เดือน | อยู่ได้นาน 4-6 เดือน |
จุดเด่นของตัวยา | นิยมใช้ในการปรับรูปหน้า | เห็นผลลัพธ์ไว | กระจายตัวยาได้ดี | ลดโอกาสการดื้อโบ |
โอกาสการแพ้ | ไม่เกิดโอกาสแพ้ | ไม่เกิดโอกาสแพ้ | ไม่เกิดโอกาสแพ้ | ไม่เกิดโอกาสแพ้ |
ทั้งนี้ ระยะเวลาของผลลัพธ์ไม่ได้ขึ้นกับยี่ห้อเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังขึ้นกับ สภาพร่างกาย การใช้กล้ามเนื้อในชีวิตประจำวัน และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากใครยังไม่แน่ใจว่าโปรแกรมโบท็อกซ์ชนิดไหนหรือปริมาณเท่าไหร่ที่เหมาะกับตัวเอง แนะนำให้เข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ Sowon Clinic เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมเฉพาะบุคคลค่ะ
Tailor Made หรือเทคนิคการตัดสูท เทคนิคลับเฉพาะ Sowon Clinic
สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ ที่ Sowon Clinic เรามีเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า “Tailor Made” หรือเทคนิคการตัดสูท ซึ่งเปรียบเหมือนการตัดชุดที่พอดีกับหุ่นของแต่ละคน เพราะโครงหน้าและสภาพกล้ามเนื้อของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยคุณหมอจะประเมินและออกแบบการฉีด รวมถึงกำหนดปริมาณโบท็อกซ์ให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาแลดูเป็นธรรมชาติ แสดงสีหน้าได้อย่างเต็มที่ สวยเข้ากับใบหน้า และไม่ดูแข็งทื่อด้วยค่ะ
ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ที่ Sowon Clinic
เคยสงสัยกันมั้ยคะว่า “ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ที่ Sowon Clinic แล้วแตกต่างจากที่อื่นยังไง?” สำหรับการทำโปรแกรมโบท็อกซ์ไม่ใช่แค่การฉีดให้เยอะอย่างเดียว แต่เป็นการออกแบบให้พอดีและแม่นยำกับใบหน้าของแต่ละคน ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล ไปจนถึงการเลือกใช้ยาที่สั่งจากบริษัทผู้ผลิต แกะกล่องใหม่ให้เห็นต่อหน้า พร้อมสอนวิธีตรวจเช็กเลข อย. ด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและได้รับความปลอดภัย ซึ่งผลลัพธ์ที่จะได้คือ กรอบหน้าชัดขึ้น, ใบหน้าดูเรียวขึ้น, กล้ามเนื้อกรามดูเล็กลง, ลดความหย่อนคล้อย และสามารถแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง และไม่โป๊ะด้วยค่ะ
โบท็อกซ์ ราคาเท่าไหร่?
ฟังมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะอยากทราบเกี่ยวกับราคาของโปรแกรมโบท็อกซ์กันแล้วใช่มั้ยล่ะคะว่า “โบท็อกซ์ราคาเท่าไหร่?” แอดมินขอบอกเลยค่ะว่า ที่ Sowon Clinic เรามีโบท็อกซ์ ราคาโปรโมชั่นที่เรียกได้ว่าเอาใจชาวโซวอนโดยเฉพาะค่ะ จากปกติ 11,666 บาท รับทันที ราคาพิเศษลดเหลือ 2,999 บาท คุ้มขนาดนี้ต้องจองแล้วค่ะ หากสนใจสามารถคลิกดูรายละเอียดที่ด้านล่างเลยค่ะ
ฉีดจริงไม่มีหน้าม้า! รวมรีวิวโบท็อกซ์จากลูกค้า Sowon Clinic✨
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน