โบท็อกกราม กับ ลิฟท์กรอบหน้า ต่างกันอย่างไร?

 โบท็อกกราม ตัวแม่ของวงการหัตถการที่สายปรับรูปหน้าต้องรู้จัก! เพราะนี่คือวิธีลัดสุดปังสำหรับคนที่อยาก หน้าเรียวสวย มีมิติแบบเกา แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ หลายคนอาจยังมีคำถามคาใจว่า “โบท็อกคืออะไร? ฉีดแล้วจะตึงโป๊ะเกินไปไหม? ผลลัพธ์จะปังนานแค่ไหน? แล้วค่าทำสวยนี่ต้องจ่ายหนักแค่ไหน?” ไม่เพียงแค่ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามให้ใบหน้าดูเรียว โบท็อกยังสามารถเพิ่มความ ชัด เป๊ะ คม ด้วยเทคนิค โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า ที่ช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ใครอยากโชว์กรอบหน้า
ปัง ๆ ไม่ต้องง้อมุมกล้อง บอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์สุด ๆ วันนี้ Sowon Clinic ขอจัดเต็ม! พาทุกคนมาเจาะลึกว่าโบท็อกกราม กับ ลิฟท์กรอบหน้า ต่างกันอย่างไร? ตั้งแต่เบื้องหลังการทำงานของตัวยา วิธีเลือกยี่ห้อที่ชัวร์ว่าปลอดภัย ไปจนถึงเช็กลิสต์ข้อควรรู้ที่ต้องเตรียมตัวก่อนฉีด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าผลลัพธ์จะ เป๊ะปังที่สุด! ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมเปิดประตูสู่โลกหน้าเรียวไปด้วยกันเลยค่า ✨

โบท็อกกรามคืออะไร? เคลียร์ทุกข้อสงสัย!

โบท็อกกราม (Masseter Botox) คือ การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A) เข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม หรือที่รู้จักกันในชื่อกล้ามเนื้อแมสซีเตอร์ (Masseter Muscle) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อสำคัญในการบดเคี้ยวอาหาร การฉีดโบท็อกนี้ไม่ได้แค่ช่วยปรับลุค แต่ยังจัดเต็มเรื่องการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ให้หน้าเรียวสวย ปังเวอร์ และช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด สำหรับใครที่กลัวการผ่าตัด แนะนำโบท็อกเลยค่ะสาว

เจ็บไหม? อยู่ได้นานแค่ไหน? ทุกคำตอบของโบท็อกกรามที่คุณต้องรู้!

การฉีดโบท็อก เจ็บมั้ย? ต้องบอกเลยว่าไม่ได้จึ้งขนาดนั้น! ความรู้สึกตอนฉีดจะเหมือนมดกัดเบา ๆ หรือเจ็บจี๊ดนิด ๆ เท่านั้น เพราะเขาใช้เข็มเล็กมาก บางที่ยังมีการแปะยาชาให้ก่อนอีก เรียกได้ว่าเอาใจสายกลัวเข็มสุด ๆ หากรู้สึกกังวล แนะนำปรึกษากับทางคุณหมอก่อนฉีดนะคะ จะได้ชิลล์แบบตัวมัมค่ะ!

แล้วโบท็อกกรามและโบท็อกลิฟท์กรอบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน? บอกเลยว่าขึ้นอยู่กับตัวยาและการดูแลตัวเองหลังฉีดนะคะ หากเป็นโบท็อกอาจจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ทันที เพราะกรามเป็นส่วนที่ค่อนข้างหนา ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 4 อาทิตย์หรือ 1 เดือน ส่วนการโบท็อกลิฟท์กรอบหน้าจะเป็นการยกกรอบหน้าให้กระชับขึ้น 1 ถึง 2 ชม. แล้วจะยุบไปเอง กรอบหน้าดูชัดขึ้น ซึ่งใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แต่สำหรับบางคนที่ดูแลตัวเองดี ๆ หรือเลือกใช้โบท็อกคุณภาพสูง อาจอยู่ได้นานถึง 8 เดือนเลยทีเดียว!

เคล็ดลับให้อยู่ปังนาน ๆ คือ เลี่ยงการเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ หรืองดนวดหน้าบริเวณที่ฉีด เพราะจะช่วยลดการสลายของตัวยา นอกจากนี้ การเติมโบท็อกตามคำแนะนำของคุณหมอก็จะช่วยให้ใบหน้าสวยเป๊ะต่อเนื่อง
ไม่ต้องรอให้ผลลัพธ์หมดก่อนแล้วค่อยเติมนะคะ ตัวแม่อย่างเราต้องดูแลให้สวยตลอดเวลานะคะ! ✨

โบท็อกเหมาะกับใคร? ฉีดตรงไหนให้ปัง? และราคาคุ้มค่าหรือเปล่า?

สำหรับใครที่กำลังนึกอยู่ว่า เอ้ แล้วโบท็อกเนี้ยเหมาะกับใครน๊า ต้องขอบอกแบบนี้เลยค่ะว่าโบท็อกแต่ละแบบจะไม่เหมือนกันนะคะ ซึ่งโบท็อกกรามจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องขนาดของกล้ามเนื้อกราม ต้องการให้ดูเรียวสวยขึ้น ซึ่งต่างจากโบท็อกริ้วรอยและโบท็อกลิ๊ฟกรอบหน้าตรงที่โบท็อกริ้วรอยจะเน้นเน้นที่การลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ให้ริ้วรอยดูจางลง ส่วน โบลิฟท์กรอบหน้า จะเป็นการเน้นที่การยกกระชับใบหน้าส่วนล่างให้ดูกระชับขึ้นโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดค่ะ

แล้วโบท็อกแต่ละตำแหน่งควรฉีดประมาณเท่าไหร่ล่ะ ซึ่งแต่ละที่จะฉีดไม่เหมือนกันนะคะ โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เช่น อายุหรือเพศ ตำแหน่งในการฉีด วัตถุประสงค์ของการรักษาและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อค่ะ โดยทั่วไปปริมาณที่ใช้ในแต่ละจุด จะมีดังนี้ค่ะ

• หน้าผาก : 15-20 ยูนิต
• ระหว่างคิ้ว : 6-15 ยูนิต
• รอบดวงตา (ตีนกา) : 15-20 ยูนิต
• กราม : 25-30 ยูนิต
• ลิฟท์กรอบหน้า : 3-6 ยูนิต

โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอนะคะ เนื่องจากต้องคำนึงปัจจัยแต่ละท่านนะคะ

.。･:･ ⌒♡*:･。 ⌒♥ ✧*:･ﾟ✧ ☆ﾟ.*･｡ﾟ *:･ﾟ🌷✨ ★｡･ ｡･:･ﾟ☆ ｡･:★ ♫•*¨*•.¸¸♪ ♡*:･。. +ﾟ*｡:ﾟ

แล้วเราจะเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดีนะที่เข้ากับเรา โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่ต่างกันและคุณสมบัติที่ต่างกันไปค่ะ 

จุดเด่นของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ

• นาโบตะ เด่นเรื่องออกฤทธิ์เร็ว อยู่ได้นาน
• Aestox เป็นทางเลือกที่ดีในราคาไม่แพงมาก
• Allergan เป็นแบรนด์ดังจากอเมริกา ใช้กันมานาน
• Xeomin บริสุทธิ์สูง โอกาสแพ้น้อย

แล้วฉีดโบท็อกราคาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณหลักพันต้นๆ จนถึงหมื่นต้นๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด จำนวนยูนิตที่ใช้ และขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอแต่ละท่านด้วยนะคะ

ไขความจริง! ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกที่หลายคนเข้าใจผิด

ทุกคนเคยได้ยินกันบ้างไหมคะว่า “ยิ่งฉีดโบท็อกซ์เยอะ ยิ่งปัง”? หลายคนอาจเชื่อแบบนั้น เพราะคิดว่ายาเยอะ = เห็นผลเร็ว แต่บอกเลยว่า ความเชื่อนี้อันตรายกว่าที่คิดเลยค่ะ! เพราะแทนที่หน้าจะสวยเป๊ะ อาจพังแบบกู้ไม่กลับได้เลยนะคะ วันนี้เราขอพาทุกคนมาไขความจริง พร้อมลิสต์ 3 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับโบท็อกซ์ ที่จะทำให้คุณเปลี่ยนมุมมองแบบเดิม ๆ ไปเลยค่ะ!

ยิ่งฉีดเยอะ ไม่ได้แปลว่ายิ่งเห็นผล

หลายคนคิดว่าฉีดโบท็อกซ์ปริมาณมาก ๆ จะช่วยลดริ้วรอยหรือลดกรามได้เร็วขึ้น แต่นั่นไม่จริงเลยค่ะ! เพราะใบหน้าของแต่ละคนต้องการปริมาณยาที่แตกต่างกัน บางคนใช้แค่ 25-50 ยูนิตก็เห็นผลชัดเจนแล้ว การฉีดเกินจำเป็นไม่เพียงเสียเงินเปล่า แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงให้ใบหน้าดูไม่สมดุลอีกด้วยค่ะ

โบท็อกซ์เยอะเกินไป เสี่ยงหน้าพังมากกว่าสวย ​​

การใช้โบท็อกซ์ในปริมาณที่มากเกินไป ไม่เพียงแค่เปลืองเงินเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงทำให้ใบหน้าดูแข็งตึงจนไม่เป็นธรรมชาติ และอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น โบท็อกซ์ไหลไปโดนกล้ามเนื้อส่วนอื่น ทำให้ ปากเบี้ยว, ตาตก, คิ้วโก่ง ซึ่งบอกเลยว่าผลลัพธ์แบบนี้ ไม่คุ้มกับความสวยที่คุณหวังแน่นอนค่ะ!

ราคาถูกเวอร์ อาจเจอยาปลอม

เห็นโบท็อกซ์ราคาถูกเกินไปแล้วรีบจองใช่ไหมคะ? ช้าก่อน! เพราะยาที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิด อาการดื้อยา ซึ่งหมายความว่าต่อไปคุณอาจไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้อีกตลอดชีวิต! นอกจากนี้ ยาปลอมยังเสี่ยงต่อการทำให้หน้าผิดรูปหรือเกิดอาการแพ้ได้อีกด้วยนะคะ

สรุปแล้ว โบท็อกซ์ที่ดีไม่ใช่เรื่องของปริมาณ แต่เป็นการใช้ให้พอดี หากคุณกำลังคิดจะฉีดโบท็อกซ์ อย่าลืมปรึกษาคลินิกที่น่าเชื่อถือ และเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผลลัพธ์สวยเป๊ะและปลอดภัยนะคะ เพราะความสวยแบบยั่งยืน ไม่ได้มาจากปริมาณยาเยอะ แต่มาจากการวางแผนและการดูแลที่เหมาะสมค่ะ 💉✨

ลิฟต์กรอบหน้ากับโบท็อกกรามต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

หลายคนอาจสับสนระหว่าง โบท็อกกราม และ โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เพราะทั้งสองอย่างนี้ต่างช่วยปรับรูปร่างใบหน้า แต่มีการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาแยกความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อให้คุณเลือกได้ถูกต้องตามความต้องการของตัวเองกันค่ะ!

โบท็อกลิฟท์กรอบหน้าเป็นเทคนิคที่เน้นการฉีดโบท็อกซ์ใน ชั้นตื้น ของผิวหนังเพื่อ กระตุ้นการหดตัวของเส้นใยใบหน้า ทำให้ใบหน้าดู ยกกระชับ ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด! โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า คิ้ว ใต้คาง หรือข้างแก้มที่เริ่มมีการหย่อนคล้อย นี่แหละค่ะวิธีช่วยให้ใบหน้าดู อ่อนเยาว์ ขึ้นทันทีหลังการทำ สาว ๆ ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ทำให้ใบหน้ากลับมาสวยสดใสอีกครั้ง!

สำหรับโบท็อกกรามนั้นมีการทำงานที่แตกต่างออกไป โดยการ ฉีดโบท็อกซ์ เข้าไปที่ กล้ามเนื้อกราม ซึ่งตั้งอยู่ตรงบริเวณ ด้านหลังขากรรไกร การฉีดตรงนี้ทำให้กล้ามเนื้อกราม คลายตัว และ ลดขนาดลง ช่วยให้ใบหน้าดู เรียวขึ้น และ กรามบางลง เหมาะกับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามหนาหรือแข็งแรงเกินไป และต้องการให้กรามดู ได้รูป และ เรียวขึ้นทันที เทคนิคนี่แหละที่ทำให้ใบหน้าดูเป๊ะได้ในพริบตา! ซึ่งหากใครที่มีกล้ามเนื้อกรามที่หนาเหมาะกับการฉีดโบท็อกกรามมากกว่านะคะ

มือใหม่ห้ามพลาด! วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกและการดูแลหลังฉีดแบบละเอียด

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

1. ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีดโบท็อก เพื่อให้ทางแพทย์ประเมินความเหมาะสมในการรักษาก่อนฉีดและหลังฉีดค่ะ
2. ควรงดยาบางชนิดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ 
3. ควรงดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชม.ก่อนการรักษา
4. หลีกเลี่ยงการนวดหน้าก่อนฉีด และงดการแต่งหน้าในวันที่ฉีด
5. หากมีประวัติแพ้ยาให้รีบแจ้งพนักงานหรือแพทย์

หลังฉีดโบท็อกแล้ว ควรดูแลยังไงดีนะ!

1. งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น ห้องซาวหน้า การปรุงอาหารหน้าเตา ในครัวที่ร้อนจัด หรือตากแดด
2. งดการนอนราบหลังฉีดประมาณ 3-4 ชม เพื่อป้องกันไม่ให้สารโบท็อกซ์ไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้า
3. งดการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่หลังจากฉีดโบท็อกประมาณ 14 วัน
4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

กินผิดชีวิตเปลี่ยน! รวมลิสต์อาหารต้องห้ามหลังฉีดโบท็อกที่คุณอาจไม่เคยรู้

1. ห้ามกินอาหารที่อยู่หน้าเตาร้อน ๆ เช่น หมูกะทะ ชาบู ใครที่สายชาบูหมูกระทะควรงดไปก่อนนะคะ
2. งดอาหารหมักดอง ยำ หรือปลาร้า 
3. งดการดื่มแอลกอฮล์
4. งดกินอาหารที่เผ็ดมากๆ จนทำให้หน้าแดง

รีวิวหลังทำแบบจึ้ง ๆ เห็นผลชัด ไม่จกตา

ฟังมาถึงตรงนี้แล้ว หลาย ๆ ท่านคงเริ่มเห็นภาพว่า การฉีดโบท็อกกราม ไม่ได้ยากหรือเป็นเรื่องที่น่ากลัวเลยค่ะ! และที่สำคัญ โบท็อกกราม ไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลยนะคะ ซึ่งหากใครที่รู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ใบหน้าหนา หรืออยากให้ใบหน้าตัวเองดูเรียว ดูยกกระชับขึ้นแนะนำที่ Sowon Clinic เลยค่ะ เพราะคุณหมอที่ Sowon Clinic ใช้เทคนิคพิเศษในการ ประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ละมัดอย่างละเอียดก่อนการฉีดโบท็อก ทำให้ใช้ ปริมาณโดสที่เหมาะสม กับใบหน้าและฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้ผลลัพธ์ออกมา ธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง และไม่โป๊ะ 🥰🥰 สำหรับใครที่อยากได้ หน้าเรียวสวย หรือ กรอบหน้าคมชัด การฉีด โบท็อกกราม ควบคู่กับ โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มาก! เพราะนอกจากจะช่วย ลดขนาดกราม ให้ใบหน้าดูเรียวแล้ว ยังช่วย ยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย เพิ่มมิติให้กรอบหน้าคมชัด และหน้าเรียวยิ่งขึ้นค่ะ ที่สำคัญ! เราใช้ โบท็อกซ์เกรดพรีเมียม ที่ผ่านการรับรอง เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยที่สุด ใครที่เคยฉีดโบท็อกกรามแล้วรู้สึกมั่นใจขึ้น อย่าลืมมาแชร์รีวิวให้เรานะคะ หรือถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะฉีดโบท็อกกรามที่ไหน Sowon Clinic พร้อมที่จะเป็นตัวช่วยในการปรับรูปหน้าให้คุณสวยเรียวและมั่นใจขึ้นค่ะ! ✨