โบริ้วรอย เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่ทำให้ใครหลายคนกังวลใจ ยิ่งเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือเเม้แต่การใช้ชีวิตในประจำวัน การโดนแสงแดด การแสดงสีหน้า หรือความเครียดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายขึ้น ซึ่งหลายคนพยายามใช้ครีมบำรุง – มาสก์หน้าเพื่อฟื้นฟูใบหน้า แต่ก็ยังไม่เห็นผลเท่าที่ต้องการ โดยปัจจุบันโปรแกรมโบลดริ้วรอยจึงเป็นหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งจะเห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด แถมยังช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวเรียบเนียนแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกว่า โบริ้วรอย คืออะไร ? ราคา เท่าไหร่ ? เหมาะกับใครบ้าง ข้อดี – ข้อเสียมีอะไรบ้าง ? เพื่อเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ !
โบลดริ้วรอยคืออะไร ? ทำไมถึงช่วยให้หน้าเด็กลง แบบไม่ต้องผ่าตัด !
โปรแกรมโบลดริ้วรอย (Botox for facial wrinkles) คือ การฉีดสาร Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum มีคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดโบริ้วรอยเข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณที่มีการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยรอบดวงตา หรือรอยตีนกา จะช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ส่งผลให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้น และหน้าดูสดใส ดูเด็กลงแลดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
โบลดริ้วรอย เหมาะกับใครบ้าง ? และควรฉีดจุดไหนถึงเห็นผลจริง ?
การฉีดโบริ้วรอย สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า โดยผู้ที่มีปัญหาจากการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น รอยย่นจากการขมวดคิ้ว ริ้วรอยเล็ก ๆ หรือแม้เเต่ตอนยิ้มที่เริ่มเห็นริ้วรอยได้อย่างชัดเจน แล้วโปรแกรมโบลดริ้วรอยเหมาะกับใคร และฉีดจุดไหนได้บ้าง ดังนี้
โบลดริ้วรอยเหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ลดริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยรอยดวงตา หรือรอยตีนกา
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระชับ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ ไม่สะดวกในการผ่าตัด หรือไม่มีเวลาพักฟื้น
โบลดริ้วรอยฉีดจุดไหนได้บ้าง
- หน้าผาก : ลดริ้วรอยที่เกิดจากการยกคิ้ว ทำให้หน้าผากดูเรียบเนียนขึ้น
- ห่างตา : ลดริ้วรอยรอยดวงตาหรือรอยตีนกา ที่เกิดจากการยิ้ม และการขยับกล้ามเนื้อ ช่วยให้ดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
- หว่างคิ้ว : ริ้วรอยระหว่างคิ้วลดริ้วรอยที่เกิดจากการขมวดคิ้ว ซึ่งมักเกิดขึ้นจากการแสดงสีหน้าต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ หรือริ้วรอยลึกที่ทำให้ส่งผลต่อความมั่นใจ สามารถปรึกษาคุณหมอฟรี เพื่อที่คุณหมอจะได้ประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด ประเมินจุดที่ควรฉีด เนื่องจากแต่ละคนมีปัญหาผิว และโครงหน้าที่แตกต่างกัน การวางแผนการฉีดอย่างถูกต้อง จึงไม่เพียงช่วยลดริ้วรอยได้อย่างตรงจุด แต่ยังทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แลดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ผลลัพธ์ออกมาตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ
สาเหตุที่ฉีดโบลดริ้วรอยแล้วหนังตาตก เกิดจากอะไร ?
อาการหนังตาตกหลังการฉีดโบริ้วรอยเป็นภาวะที่พบได้ในบางราย และมักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ดังนี้ :
- คุณหมอไม่ชำนาญการ
หากฉีดโปรแกรมโบลดริ้วรอยกับคุณหมอที่ไม่ชำนาญการ เสี่ยงจากการฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้ไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่นหรือใกล้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการยกของเปลือกตา จนทำให้เกิดอาการหนังตาตกได้ - ใช้โบลดริ้วรอยไม่มีคุณภาพ
โบลดริ้วรอยที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก ใบหน้า ดูโป๊ะ ไม่เป็นธรรมชาติ - ฉีดในปริมาณมากเกินไป
ก่อนฉีดโปรแกรมโบลดริ้วรอย คุณหมอต้องประเมินโครงสร้างใบหน้าหรือขนาดกล้ามเนื้อ หากใช้ตัวยาปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแรง ส่งผลให้ใบหน้าแข็งตึง หรือเกิดผลข้างเคียงอื่นได้ - ใช้โบลดริ้วรอยปลอม
โบลดริ้วรอย ราคาถูก จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจไม่มีฤทธิ์จริง จะทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง - ดูแลตัวเองหลังฉีดไม่ถูกต้อง
เช่น กด นวด หรือนอนราบทันทีหลังฉีด อาจทำให้ตัวยาแพร่กระจายไปโดนกล้ามเนื้อบริเวณอื่น จนทำให้เกิดผลค้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
โบลดริ้วรอยมี ข้อดี – ข้อจำกัด อะไรบ้าง ?
ก่อนการฉีดโบริ้วรอย ควรรู้ข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้
ข้อดี
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ
- ไม่เจ็บ ไม่มีรอยแผล ฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลง ดูสดใส และดูเด็กขึ้น
- หากใช้โปรแกรมโบลดริ้วรอยเเท้ 100% จะปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
- สามารถป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ข้อจำกัด
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร
- ต้องฉีดโบลดริ้วรอยอย่างต่อเนื่อง
- หากใช้ปริมาณยาที่ไม่พอดีหรือเยอะเกินไป อาจทำให้หนังตาตก หน้าดูไม่ธรรมชาติ แข็งตึง แสดงสีหน้าไม่ได้
ดังนั้น การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ คุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์กล้ามเนื้อโครงสร้างใบหน้าอย่างแม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณหมอไม่มีความแม่นยำต่อจุดที่จะฉีดลงไป อาจจะให้เกิดผลข้างเคียงเช่น คิ้วตก หนังตาตก หรือแสดงสีหน้าได้ไม่เป็นธรรมชาติ
โบลดริ้วรอย อันตรายไหม !
โบริ้วรอย อันตรายไหม ? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ก่อนที่จะตัดสินใจทำ คำตอบคือ โปรแกรมโบลดริ้วรอย ไม่อันตรายเลยค่ะ ถ้าเลือกถูกที่ และถูกคน ! ดังนี้
- เลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์โดยตรง
- ก่อนฉีดสามารถตรวจสอบยาแท้ได้ โบลดริ้วรอยต้องของแท้ 100 % และตัวยาสามารถสลายเองได้ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
- หากฉีดด้วยความแม่นยำ จะช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการหน้าแข็งตึง ยิ้มไม่สุด หรือหนังตาตกได้
โบลดริ้วรอยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเลือกคลินิกหรือคุณหมอที่น่าเชื่อถือ โดยใช้ตัวยาของแท้เท่านั้น และถ้าอยากหน้าเด็ก ปลอดภัย ไม่โป๊ะ ต้องเลือกอย่างมีสติ สุดท้ายนี้หากคุณพร้อมที่จะฟื้นฟูความสดใสให้กับใบหน้า สามารถปรึกษาฟรีกับคุณหมอที่ Sowon Clinic ได้เลยค่ะ
โบลดริ้วรอย อยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลายคนที่กำลังสนใจฉีดโบลดริ้วรอย มักมีคำถามว่า จะอยู่ได้นานไหม ? วันนี้เรามีคำตอบให้แบบชัดเจน ไปดูกันเลยค่ะ
หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ให้บริการโปรแกรมโบลดริ้วรอยที่ปลอดภัย และเห็นผลชัดเจน Sowon Clinic คือคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ โดยคุณหมอจะประเมินขนาดกล้ามเนื้อ วิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียดแบบเคสต่อเคส เพื่อใช้ปริมาณให้พอดีกับท่านที่สุด ทำให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ ไม่ตึง ไม่แข็ง และไม่โป๊ะแน่นอนค่ะ
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อน – หลัง ฉีดโบลดริ้วรอย ไม่พลาดผลลัพธ์ !
การเตรียมตัวก่อนทำและหลังทำโบริ้วรอยเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้
ดูแลตัวเองก่อนฉีด
- แจ้งแพทย์ถึงประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัวให้เรียบร้อยก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เเละรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาบำรุงต่าง ๆ ก่อนศัลยกรรม 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 2 อาทิตย์
ดูแลตัวเองหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการนอนราบหรือก้มหน้า เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบริ้วรอยเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่น
- งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น การอบซาวน่า หรือการปรุงอาหารหน้าเตาร้อน เป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพราะความร้อนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงจากการฉีด
- รอยนูนหลังการทำ อาจจะเกิดรอยนูนขึ้นแต่จะหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมง
- งดการออกกำลังกายหนัก หรือการเล่นโยคะที่ต้องขยับกล้ามเนื้อใบหน้ามากเกินไปเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการทำ เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดจากการใช้กล้ามเนื้อ
ข้อควรสำคัญหลังฉีดโปรแกรมโบลดริ้วรอยควรดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดค่ะ
โบลดริ้วรอย ราคา ?
อยากจะฉีดโบริ้วรอยเเต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมงบเท่าไหร่ ? แต่ ไม่ต้องกังวลเรามีโปรโมชั่นสุดคุ้มเเบบจัดเต็มไม่ต้องกลัวงบบานปลาย ไปดูราคากันเลยค่าา !
โปรโมชั่นโบลดริ้วรอย
ราคาเพียง 2,999 บาท (จากปกติราคา 17,500 บาท)
โปรจับคู่หน้าเรียว & ริ้วรอยหาย
คู่ที่ 1 : โปรแกรมโบ + โปรแกรมร้อยไหม 4 เส้น
ในราคา 12,500 บาท จากปกติราคา 23,500 บาท
คู่ที่ 2 : โปรแกรมโบ + โปรแกรมร้อยไหม 6 เส้น
ในราคา 17,500 บาท จากปกติราคา 33,500 บาท
คู่ที่ 3 : โปรแกรมโบ + โปรแกรมร้อยไหม 6 เส้น
ในราคา 22,300 บาท จากปกติราคา 43,500 บาท
ทำไมต้องฉีดโบลดริ้วรอย ที่โซวอนเท่านั้น !
เพราะที่ Sowon Clinic เรามีแพทย์ที่ชำนาญด้านผิวพรรณโดยตรง และคุณหมอโซวอนมีเทคนิคพิเศษคือ เทคนิค Tailor Made เป็นการรักษาหรือประเมินใบหน้าที่เหมือนการตัดสูท ให้พอดีกับทุกจุดบนใบหน้าในแต่ละเคส โดยคุณหมอจะประเมินขนาดกล้ามเนื้อ วิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียดแบบเคสต่อเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เเม่นยำ และใช้ยาในปริมาณที่พอดีเหมาะสมกับขนาดกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าไม่แข็งตึงเกินความพอดี สุดท้ายนี้คุณหมอมีการวางตำแหน่งยาที่แม่นยำป้องกันไม่ให้โบริ้วรอยเคลื่อนที่ไปบริเวณอื่นที่อาจทำให้ คิ้วตก หนังตาตก หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้ค่ะ
รวมรีวิวจริง โบลดริ้วรอย
ดูเนื้อหาเกี่ยวกับหัตถการอื่น คลิกเล๊ย!
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณของ SOWON CLINIC มุ่งมั่นให้บริการปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อัลเทอร่า ร้อยไหม และ Hifu โดยทีมแพทย์ของเราได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง มี Certificate รับรอง และใบประกอบวิชาชีพ เน้นความปลอดภัยสูงสุดและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้รับบริการด้วยผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน