ทำจมูกเจ็บไหม? มารู้ทุกขั้นตอนของการเสริมจมูก

ทำจมูกเจ็บไหม? เชื่อว่าหลายคนที่กำลังเตรียมตัวจะทำจมูก เสริมจมูก มักมีความกังวลแบบนี้ คือกลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวเข็ม กลัวเลือด กลัวเจ็บ และกังวลล่วงหน้าว่า ทำจมูกเจ็บจริงหรอ? พาลให้ล้มเลิกความตั้งใจไป แม้จะยังไม่ค่อยมีความรู้ถึงขั้นตอนของการศัลยกรรมจมูกมากเท่าไร ว่าการ ทำจมูก มีขั้นตอนอะไรบ้าง? และขั้นตอนไหนที่จะเจ็บที่สุดวันนี้ Sowon Clinic จะมาเปิดเผยถึงขั้นตอนของการศัลยกรรมจมูกให้ทุกท่านทราบกัน เพื่อที่จะได้ช่วยคลายความกังวล และความสงสัยว่า ทำจมูกเจ็บไหม? ถ้าพร้อมแล้วเริ่มกันเลยค่ะ

ดูรีวิวเสริมจมูก Sowon clinic ได้ที่นี่ : ⬇⬇
https://sowongroup.com/review_surgery-nose_promotion

ศัลยกรรมเสริมจมูก (RHINOPLASTY)

ศัลยกรรมเสริมจมูก คือ ผ่าตัดแต่งจมูกโดยการใส่ซิลิโคนเข้าไปในจมูก ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมสวยงามจากการเหลาซิลิโคนของคุณหมอ การศัลยกรรมเสริมจมูกไม่เพียงเสริมเพื่อความสวยงาม แต่ยังช่วยในเรื่องการแก้ไขจมูกที่ผิดรูป หรือเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุได้ด้วยเหมือนกัน
ทำไมถึงต้องเสริมจมูก เพื่อเสริมความมั่นใจ สวยขึ้น หล่อขึ้น หน้าที่การงานที่ดีขึ้นหรือบางคนเกิดอุบัติเหตุทำให้จมูกผิดรูปก็เข้ารับการแก้ไข เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

ทำจมูกเจ็บจริงหรือ? ไม่ต้องกลัวไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ก่อนทำจมูกทุกครั้ง ต้องมีการปรึกษาและบอกวัตถุประสงค์ความต้องการในการเสริมจมูกแก่แพทย์ ว่าต้องการจมูกแบบไหน แพทย์ที่ดีจะบอกข้อจำกัดเฉพาะตัวของคุณ ว่าสามารถทำจมูกทรงไหนได้บ้าง เพราะแต่ละคนก็มีทรงที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาตามตาที่หลัง ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่จะช่วยคลายกังวลได้อย่างดี หากแพทย์ให้คำปรึกษาดี ลองถามแพทย์ดูก็ได้นะคะว่า ทำจมูกเจ็บไหม? เพราะแพทย์จะบอกถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของการทำจมูกที่ขั้นตอนนี้แหละค่ะ

มีกี่แบบ มี 2 แบบ
1. แบบปิด ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้เวลาในการทำน้อย แผลผ่าตัดเล็ก และแผลอยู่ในรูจมูกไม่สามารถมองเห็นได้
2. แบบเปิด ใช้เวลาผ่าตัดนาน มีแผลผ่าตัดอยู่ด้านนอกเหมาะสำหรับเคสที่ต้องแก้โครงสร้างจมูก

เจาะลึกขั้นตอน การผ่าตัดเสริมจมูก

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมจมูก จะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เท่านั้น โดยกระบวนการผ่าตัด มีดังนี้

1. หากเป็นการเสริมจมูกแบบ CLOSED

แพทย์จะทำการบล็อกยาชาและเส้นประสาท แต่ถ้าเป็นแบบ Open จะมีการใช้ยาสลบร่วมกับยาชา เนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานานกว่า

2. ขั้นตอนการเหลาซิลิโคน

เพื่อให้เข้ากับรูปร่างจมูกของแต่ละคน หรือตามรูปทรงที่ที่ต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และได้รูปทรงตามที่ต้องการ

3. หลังจากที่ยาชา หรือ ยาสลบ ออกฤทธิ์แล้ว

แพทย์ก็จะเริ่มกรรมวิธีในการผ่าตัดโดยการเปิดแผลด้านในจมูกเพียงเล็กน้อยเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไปจากนั้นปรับให้พอดี และดูความตรง ไม่เบี้ยวเอียง ก็เป็นอันเรียบร้อย หรือหากในขั้นตอนนี้มีการตกแต่งจมูกร่วมด้วย ก็อาจจะต้องเปิดจมูกขึ้น หรือที่เรียกว่าการ Open เพื่อแพทย์จะได้เห็นภายในโครงสร้างจมูกที่ชัดเจน และทำการตกแต่งตามที่ต้องการ

4. ปิดแผลโดยการเย็บ

ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการผ่าตัด แพทย์จะใช้ไหมตัดในการเย็บปิดแผลก็เป็นอันแสร็จ และในส่วนของการใส่เฝือกหรือปิดพลาสเตอร์ดามจมูกไว้นั้น จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์เป็นผู้พิจารณา

ข้อดี

ราคาไม่แพง
ไม่มีแผลเป็นด้านนอก การฟื้นตัวก็จะเร็วกว่าการผ่าตัดแบบ open
แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดที่ทำการผ่าตัด โดยไม่ต้องวางยาสลบ
เมื่อเกิดปัญหาแพทย์สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าการผ่าตัดแบบ open
ผลการผ่าตัดออกมาสวย

ข้อเสีย

มีโอกาสซิลิโคนทะลุ หากเสริมซิลิโคนที่โด่งเกินไป

เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ สำหรับขั้นตอนการเสริมจมูก เห็นไหมคะสำหรับคำถามที่ว่า ทำจมูกเจ็บไหม? ก็ต้องบอกเลยว่าเจ็บ แต่เจ็บน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ความสวยที่ได้ และมีเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้นที่จะเจ็บ คือการฉีดยาชา ถ้าแพทย์ฝีมือดี มือเบาก็อาจไม่เจ็บเลยก็ได้นะคะ ถ้าใครยังกังวลอยู่ว่า ทำจมูกเจ็บไหม? ลองดูรีวิวจากเพื่อน ๆ ที่เคยมาทำจมูกที่ Sowon Clinic ดูนะคะ แล้วจะเปลี่ยนจาก ทำจมูกเจ็บไหม? เป็นมีคิวแพทย์วันไหนแทนเพราะมันปังมาก !!

เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด (OPEN RHINOPLASTY)

การผ่าตัดแบบเปิดจมูกด้านหน้า เปิดแผลจากด้านหน้าทำให้มีแผลเป็น กรณีเสริมจมูกแบบ open เป็นการผ่าตัด คนไข้จะต้องงดน้ำ งดอาหารมาอย่างน้อย 1 วันเพื่อตรวจเลือด และ X-ray ดูความพร้อมของปอดคนไข้ เพื่อดูความพร้อมของปอดในการวางยาสลบ คุณหมอจะใช้ยาสลบก่อนการผ่าตัดและหลังผ่าตัดจะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 1 คืน

ข้อดี

คุณหมอจะเห็นโครงสร้างจมูกของคนไข้ได้อย่างชัดเจน และตรงจุดมากกว่าการการผ่าตัดแบบปิด และสามารถแก้ไขได้ตรงจุด

ข้อเสีย

ราคาสูงกว่าการผ่าตัดแบบปิด
ใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่าแบบปิด และเสียเลือดมากกว่า
ความเสี่ยงมีค่อนข้างมาก ความผิดพลาดค่อนข้างเยอะกว่า
หากมีปัญหาหลังทำ วิธีการแก้ไขจะยากกว่า
มีแผลเป็นบริเวณด้านนอกจมูก
การฟื้นตัวใช้เวลานานกว่า
มีโอกาสซิลิโคนทะลุ หากเสริมซิลิโคนที่โด่งเกินไป

การตัดปีกจมูก (ALAR REDUCTION)

ปีกจมูกบานคงสร้างความไม่มั่นใจให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนอยู่ไม่น้อย ความไม่สมส่วนระหว่างความกว้างตรงปลายจมูกกับความกว้างของหัวคิ้วนั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดปีกจมูกทำให้จมูกเล็กเรียวลงได้

ขั้นตอนการตัดปีกจมูก

แพทย์จะฉีดยาให้คนไข้เพื่อขั้นตอนการผ่าจะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการผ่า เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วจึงจะทำการผ่าตัด หลักการผ่าตัดโดยทั่วไปก็คือ จะตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ปีกจมูกออก และจัดฐานปีกจมูกรวมทั้งกำหนดความกว้างของรูจมูกใหม่ ในกรณีที่ปีกจมูกไม่หนามาก

การผ่าตัดปีกจมูกมี 2 แบบ

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน

การตัดปีกจมูกแบบแผลใน เป็นเทคนิคที่นิยมทำเป็นอย่างมาก โดยแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณปีกจมูก รอยาชาออกฤทธิ์ 5 นาที แพทย์จะทำการผ่าตัด เพื่อตัดปีกจมูกให้ดูเล็กลง เน้นความเป็นธรรมชาติ รอยเย็บจะอยู่ด้านใน จะไม่ทำให้เกิดแผลเป็น หลังผ่าตัดจะทำให้ใบหน้ารวมดูสวยเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะออกมาได้ดีกว่าการผ่าตัดแผลนอก

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก

การตัดปีกจมูกแบบแผลนอก เทคนิคนี้สามารถใช้กับจมูกบางรูปทรง เช่น จมูกชมพู่ อาจจะเกิดแผลเป็นได้ เพราะผ่าตัดจากด้านนอก วิธีนี้จะใช้ช่วยลดความกว้างของปีกจมูกในกรณีที่ปีกจมูกบานออกมาก

โดยในแต่ละเทคนิคของการตัดปีกจมูก แพทย์จะพิจารณาจากรูปทรงของคนไข้ด้วย