ข้อควรรู้ก่อนร้อยไหม การร้อยไหม ถือเป็นการทำสวยที่นิยมกันมากในหมู่สาวไทยมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะถือเป็นการยกกระชับใบหน้า เสกหน้าวีเชฟได้ทันทีหลังทำ แถมราคาก็ไม่สูงมาก ถึงแม้ว่าการร้อยไหมจะไม่ใช่การผ่าตัดแต่ก็ถือทำสวยครั้งใหญ่เหมือนกันค่ะ เพราะแพทย์จะต้องใช้ร้อยไหมดึงลงไปใต้ผิวหนังของเรา แต่บางคนก็ยังมีข้อสงสัยกันอยู่ว่าการร้อยไหมนั้นมันดียังไง? ทำไมใครๆก็พากันร้อยไหม? ซึ่งทุกวันนี้เราก็ได้ยินชื่อไหมมากมาย แล้วไหมแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร? หลังทำไปจะมีผลข้างเคียงหรืออันตรายอะไรบ้าง? จะทำสวยทั้งทีเราก็ต้องศึกษากันให้ดีก่อนนะคะ ดังนั้นก่อนเราจะตัดสินใจร้อยไหมเราจะต้องมาทำความรู้จักกับการร้อยไหมกันก่อนดีกว่าค่ะ
ร้อยไหมช่วยเรื่องอะไร? แล้วใครบ้างที่ควรร้อยไหม?
การร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวหน้า ช่วยแก้ปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น โดยใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวและมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง และช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าว นอกจากการร้อยไหมจะเป็นการย้อนอายุให้ใบหน้าตึงสวย ดูเด็กลงแล้วยังมีประโยชน์อื่นๆอีก ดังนี้
- ยกกระชับ ช่วยให้หน้าเรียวตึง มีกรอบหน้าที่ชัดเจน แก้มไม่หย่อนคล้อย เนื่องจากการร้อยไหมคือการนำเส้นไปเข้าไปใต้ผิวหนังและให้ไหมเกี่ยวเนื้อเยื่อและยกใบหน้าให้ตึงขึ้นมา
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวแน่นและเต่งตึง เพราะการที่เส้นไหมถูกเกี่ยวขึ้นที่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
- ร้อยไหมจมูกให้โด่งสวยและทำให้ปีกจมูกมีขนาดเล็กลง เช่น คนที่ปลายจมูกไม่ได้รูป หรือต้องการปลายจมูกหยดน้ำก็สามารถร้อยไหมจมูกได้
- ร้อยไหมร่องแก้มเติมเต็มให้อิ่มเต็ม การร้อยไหมจะช่วยยกให้ร่องแก้มตื้นขึ้นและไม่หย่อนคล้อย
การร้อยไหม เหมาะกับคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหลวม ไม่แน่น จนหย่อนคล้อยในที่สุด หรือไม่ได้บำรุงใบหน้าดีเท่าที่ควร อาจทำให้หน้าไม่กระชับเท่าที่ควร ซึ่งการร้อยไหมเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
- ผิวหน้าหย่อนคล้อย
- กรอบหน้าไม่ชัดเจน
- แก้มพอง มีกระเปาะแก้ม
ไหมมินท์ ไหมโครงตาข่าย ต่างกันอย่างไร?
- ไหมมิ้นท์ (Mint Lift)
ไหมชนิดใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาและวิจัยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเทคนิคการร้อยไหมดึงหน้า โดยไม่ต้องผ่าต้อง ซึ่งไหมมิ้นท์นั้น เป็นไหมพิเศษ ผลิตมาจาก PDO (polydioxanone) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับ และ ปรับรูปหน้าให้เป็น V-Shape เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เพราะใช้เทคนิคเพียงแค่ยาชาเฉพาะที่ เปิดแผลจุดเล็ก ๆ เพื่อเป็นจุดเกี่ยวไหม ทำให้ไม่อันตราย ไม่เกิดการบาดเจ็บ และ ไม่ทำให้มีรอยแผลอีกด้วย หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
จุดเด่น ร้อยไหมมิ้นท์แต่ละเส้นจะมีจุดแขวนใต้ผิวหนัง บริเวณขมับ เหนือใบหู ขากรรไกร ซึ่งสามารถช่วยให้การยึดเกราะแข็งแรง มีความตึงมากขึ้น จึงช่วยเรื่องยกกระชับได้ดีกว่าไหมชนิดอื่นที่ไม่มีจุดแขวนจึงเหมาะมากสำหรับใช้ยกกระชับใบหน้านั่นเองค่ะ
ผลลัพธ์ อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- ไหมโครงตาข่าย (tess lift)
ไหมโครงตาข่าย หรือเรียกอีกชื่อว่า ไหม Tesslift soft ถูกผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Tesslift ประเทศเกาหลีใต้ เป็นไหมชนิดแรกของโลกที่ใช้หลัก Biomedical engineering สร้างไหมเป็นรูปแบบโครงตาข่าย (Mesh treads)ลักษณะของไหมโครงตาข่ายจะเป็นเส้นไหมวัสดุ PDO เส้นสีน้ำเงินที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม และถูกคลุมด้วยไหมเส้นใยตาข่ายรอบด้าน ทำให้ไหมมีความแข็งแรงมากกว่าไหมเงี่ยงทั่วไปถึง 80 เท่า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น
จุดเด่น จุดหลัก ๆ ที่ทำให้ไหมโครงตาข่ายต่างจากไหมชนิดอื่น คือ การมีตาข่ายล้อมรอบเส้นไหม ไหมที่มีเงี่ยงแบบอื่น เช่น ไหมล็อค (barbed thread) ไหมก้างปลา จะเป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยงเหมือนแกนกลางของไหมโครงตาข่าย แต่ไม่มีตาข่ายปกคลุมรอบเส้นไหม ส่วนไหมมิ้นท์ (MINT LIFT) หรือ ไหมกุหลาบ เป็นไหมที่ผลิตเงี่ยงมาพร้อมกับการขึ้นรูปเส้นไหมและไม่มีตาข่ายคลุมรอบเส้นไหมเช่นเดียวกันค่ะ
ผลลัพธ์ อยู่ได้นาน 1-1 ปีครึ่ง
ร้อยไหมด้วย เข็มทู่ VS เข็มแหลม ต่างกันอย่างไร?
ลักษณะของเข็มที่ใช้ในการร้อยไหมนั้น จะขึ้นอยู่กับเทคนิคฝีมือและความปราณีตของคุณหมอที่ร้อย ซึ่งมีความแตกต่างกัน คือ
เข็มทู่ ปลายเข็มมีลักษณะกลมมน ไม่แหลม จะช่วยลดโอกาสที่ทำให้เส้นเลือดบาดเจ็บ เมื่อเข็มเฉียดผ่านเส้นเลือดก็จะไม่ทำให้เส้นเลือดฉีกขาด ซึ่งจะทำให้เกิดอาการบวมช้ำน้อยกว่าเข็มแหลม แต่ความสามารถในการทะลุทะลวงเนื้อเยื่อที่มีความเหนียวจะต่ำ
เข็มแหลม เข็มมีลักษณะปลายแหลมคม จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะไปทิ่มให้เส้นเลือดบาดเจ็บได้ง่าย ทำให้หลังทำอาจมีอาการบวมและช้ำมากกว่าเข็มทู่ เหมาะสำหรับใช้ร้อยไหม บริเวณที่เนื้อเยื่อมีความเหนียวและแข็งแรง
ร้อยไหม ต้องใช้กี่เส้น?
จำนวนของเส้นไหมที่ใช้ร้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของใบหน้าคนไข้เป็นหลัก ซึ่งจำนวนเส้นไหมที่ใช้ร้อยก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของไหมอีกด้วยอย่าไหมมินท์ กับ ไหมโครงตาข่ายจะใช้จำนวนไม่เหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับหมอประเมินว่าใบหน้าควรใช้ไหมกี่เส้นถึงจะเห็นผลมากที่สุด ดังนั้นควรปรึกษาหมอก่อนค่ะจะได้แม่นยำและเห็นผลลัพธ์จริง ๆ
ร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน? แล้วเมื่อไหร่ถึงควรทำซ้ำ?
ระยะเวลาการยกกระชับของการร้อยไหม ขึ้นอยู่กับลักษณะเส้นไหมที่ร้อยไปค่ะ และสามารถทำซ้ำได้เมื่อเส้นไหมละลายหมดแล้ว โดยจับคลำไปจะไม่เจอเส้นไหม และรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง หากครบระยะเวลาแล้วรู้สึกว่าใบหน้ายังเต่งตึงอยู่ก็ยังไม่จำเป็นต้องร้อยซ้ำทันทีค่ะ
ร้อยไหมมิ้นท์ (Mint Lift) อยู่ได้นาน 8 เดือน – 1ปี
ร้อยไหมโครงตาข่าย (Tess Lift) อยู่ได้นาน 1 ปี – 1 ปีครึ่ง
ความแตกต่าง ไหมมินท์ ไหม Tess Lift และ ไหมก้างปลา
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนร้อยไหม
- ควรงดยา อาหารเสริม และวิตามินที่มีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น ยาแอสไพริน อาหารเสริมจำพวกวิตามินอี ฯลฯ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนร้อยไหม
- ผู้ที่ร้อยไหมจะต้องไม่เป็นแผลคีลอยด์ ไม่แพ้ยาชา และไม่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดรุนแรง
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
ขั้นตอนการร้อยไหม ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
- แพทย์ทำการประเมินรูปหน้า เพื่อระบุจำนวนเส้นไหมที่จะร้อย เพื่อแก้ปัญหา
- ล้างทำความสะอาดใบหน้า
- แพทย์จะทำการทายาชาและฉีดยาชาอย่างเบามือ
- แพทย์ทำการร้อยไหมตรงบริเวณที่กำหนดไว้
ดูแลตัวเองหลังร้อยไหม
- งดแผลโดนน้ำเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งแผลหลังร้อยไหมจะเป็นเพียงรูเปิดเข็มบริเวณไรเส้นผมเล็กๆ ข้างละ 1-2 จุดเท่านั้น โดยแผลจะจางหายไปเองภายใน 1-3 วัน
- รับประทานยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์แนะนำ
- ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมๆ ทุกๆ 4 ชั่วโมง 1-2 วัน
- ควรงดการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ เช่น การล้างหรือถูหน้าแรง ๆ สามารถใช้สำลีชุบน้ำเช็ดเบาๆได้
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการบวมช้ำอักเสบ
- งดการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ นวดหน้า ขัดผิว อาจทำให้แผลอักเสบจากการโดนความร้อนได้
- งดกิจกรรมที่ต้องอ้าปากกว้างๆ 2 สัปดาห์ เช่น หัวเราะแรงๆ, กัดแฮมเบอร์เกอร์ เพื่อให้ไหมได้ล็อคตัวกับเนื้อเยื่ออย่างเต็มที่
**หลังร้อยไหมก้างอาจจะได้ยินเสียงกึ๊กๆ เวลาขยับใบหน้าหรืออ้าปาก ซึ่งเจอได้ปกติและเกิดจากไหมมีการล็อคกับเนื้อเยื่อมากขึ้นในช่วงที่ไหมยังละลายไม่หมด คนไข้อาจคลำได้เส้นไหมบริเวณที่ร้อย ซึ่งอาการนี้จะค่อยๆ หายไปเองหลังไหมละลาย**
ข้อควรระวังจากการร้อยไหม
- ผู้ที่ร้อยไหมจะต้องไม่เป็นแผลคีลอยด์บริเวณใบหน้า เพราะการร้อยไหมสามารถกระตุ้นให้เกิดคีลอยด์ได้
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ใบหน้ายับ ผิวเป็นคลื่นได้ ซึ่งเกิดจากเทคนิคการร้อยของแพทย์
- หลังทำอาจมีอาการระบมใบหน้าเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาการปวด, บวม, แดงมากกว่าปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้ออักเสบ เกิดจากความไม่สะอาดของอุปกรณ์และการดูแลตัวเองหลังทำที่ไม่ดีพอของคนไข้ ควรกลับไปพบแพทย์หากมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงการร้อยไหมที่มีส่วนประกอบของโลหะหนัก เช่น เงิน, ทองคำ ซึ่งไหมเหล่านี้จะไม่สามารถละลายได้หมด ทำให้เกิดพังผืด และมีโลหะตกค้างบริเวณใบหน้า เมื่อคนไข้มีความจำเป็นต้องเข้าเครื่อง MRI จะทำให้เบิร์นบริเวณใบหน้าได้
ร้อยไหม VS HIFU VS ผ่าตัดดึงหน้า ทำอะไรดี?
ในด้านของการยกกระชับ เราก็มีด้วยกันหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม การทำ HIFU รวมไปถึงการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ซึ่งแต่ละอย่างมีความแตกต่างกันดังนี้
- การยกกระชับ ผ่าตัดดึงหน้า > ร้อยไหม > HIFU
- การพักฟื้น ผ่าตัดดึงหน้า > ร้อยไหม > HIFU
- ระยะเวลาเห็นผล ผ่าตัดดึงหน้า > ร้อยไหม > HIFU
ความเปลี่ยนแปลงหลังร้อยไหม
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้อยไหม
ร้อยไหมราคาเท่าไหร่ ? ดีจริงไหม ?
ร้อยไหมราคาเท่าไหร่? มีความเจ็บมากน้อยแค่ไหน แล้วการร้อยไหมสามารถทำตรงจุดไหนได้บ้าง ทาง Sowon Clinic จะมาไขข้อสงสัยให้ค่ะ!
รู้ก่อนเลือก! ร้อยไหม VS Ulthera ต่างกันอย่างไร
รู้จักให้ครบก่อนตัดสินใจ การร้อยไหมกับการทำอัลเทอร่า อะไรที่สามารถแก้ปัญหาหย่อนคล้อยได้ตรงใจ เหมาะสมมากที่สุด
ร้อยไหมมิ้นท์ คืออะไร ? ดีไหม ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
ร้อยไหมมิ้นท์ คืออะไร ? ดีไหม ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง แล้วใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม สามารถไขข้อข้องใจในทุก ๆ คำถาได้ที่บทความนี้เลย
รวมทุกข้อสงสัยไหมมิ้นท์ คืออะไร ยกกระชับหน้ามาแรงที่สุด?
ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) ไหมตัวดังที่เด่นเรื่องการยกกระชับ ยกแรงมากที่สุดในไหมทั้งหมด? ใครที่มีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย กระเปาะแก้มห้อย
ร้อยไหม ราคา เท่าไหร่ จำเป็นต้องร้อยไหม ต้องอ่าน!
ร้อยไหม อีกหนึ่งทางเลือกปรับรูปหน้าให้มีความเรียว กระชับ โดยไม่ต้องใช้มีดผ่าตัด แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจกว่าที่คิด
หน้าบาน หน้าไม่มีมิติ เนรมิตหน้าใหม่โดยไม่ต้องผ่าตัด !
หน้าบาน หน้าไม่มีมิติ ปัญหาโลกแตกที่ทำเอาใครหลาย ๆ คน รู้สึกเฟลกับตัวเองถึงขั้นไม่มั่นใจที่จะออกกล้อง ไม่ชอบถ่ายรูป ! เพราะปัจจุบันปี 2022 การมีรูปหน้าที่เรียว ดูมีมิติ