ฟิลเลอร์ ฉีดความสวยหรือฉีดความพัง อ่านก่อนรู้ก่อน
ฟิลเลอร์ สุดฮิตที่ใครได้ยินก็ต้องรู้จัก เป็นที่นิยมอย่างมากของสาวๆ ในยุคปัจจุบัน ที่อยากเติมเต็มรูปหน้าให้สวยเป๊ะ เพราะเป็นเทคนิคเติมเต็มที่ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด บวกกับผลที่ได้รับหลังการฉีดก็เป็นไปตามที่ต้องการ เห็นผลได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น บางคนฉีดฟิลเลอร์แล้วหน้าตาดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ทำให้มีคลินิกให้บริการฉีดฟิลเลอร์อย่างแพร่หลาย แต่ก็มีหลายข้อสงสัยที่สาวๆ กังวลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ฉีดแล้วจะปังหรือพัง วันนี้ Sowon Clinic จะมาช่วยแถลงไขให้สบายใจกันค่ะ
ดูรีวิวโบท็อก ฟิลเลอร์ Sowon clinic ได้ที่นี่ : ⬇⬇
https://sowongroup.com/review_skin-filler-botox_promotion
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ (Filler) สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือเรียกสั้นๆ ว่า HA เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) หรือน้ำตาลเชิงซ้อน ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบสารตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของมนุษย์เรา มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิว ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว โดยสารกลุ่มนี้จะมีอยู่มากในชั้นผิวหนังและกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจนนั่นเอง ทำไมถึงใช้เพื่อเติมเต็มความสวยได้ เพราะฟิลเลอร์ จะสามารถจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจล ทำให้สามารถ ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มหรือสร้างมิติในจุดต่างๆ บนใบหน้าของเราได้โดยไม่เป็นอันตราย (หากฉีดฟิลเลอร์แท้กับคุณหมอที่เชี่ยวชาญ)
ฟิลเลอร์ ชนิดที่สลายและไม่สลาย
รู้หรือไม่? ว่าฟิลเลอร์ มีทั้งแบบที่สลายได้ และไม่สลาย ในปัจจุบัน สารที่ใช้ ฉีดฟิลเลอร์ นั้นแบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ
รูปแบบที่ 1 แบบชั่วคราว คือสารจะสลายตัวไปเอง 100% ภายใน 3 – 24 เดือน ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ HA 100% ปลอดภัยสูง เป็นตัวเดียวที่ได้รับอนุญาตจาก FDA และ อย. มีหลายแบรนด์ ดังนี้
- Neuramis
- Juvederm
- Belotero
รูปแบบที่ 2 แบบกึ่งถาวร หรือที่เคยได้ยินว่า สารเหลว สามารถสลายตัวได้บางส่วนและบางส่วนไม่สลาย ไม่ผ่าน อย. มักผสม polyacrylaminde ทำให้สลายไม่หมด มีปฏิกิริยากับผิวหนัง ติดเชื้อได้ง่าย เป็นอันตรายในอนาคต
รูปแบบที่ 3 แบบถาวร นี้ถ้าฉีดไปแล้วจะไม่สลายตัว หรือที่เราได้ยินบ่อยๆ ว่า ซิลิโคนเหลว มีราคาถูก และมีหลายๆ คนเอามาหลอกว่าฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ สร้างความเสียหายอย่างมาก
ซึ่งหากฉีดสารรูปแบบที่ 2 และ 3 เข้าไปพบว่า จะก่อให้เกิดผลเสียมากมาย นอกจากไม่ได้ทำให้สวยขึ้นแล้วยังทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เกิดภาวะแทรกซ้อน เน่า ก่อตัวขึ้นเป็นก้อนเนื้อ ผิวขรุขระ และก็มีการไหลไปสู่บริเวณต่างๆ บนใบหน้า ตามคางตามแก้ม อาจส่งผลให้ใบหน้าพิการ ผิดรูป บางรายมีการอุดตันในเส้นเลือด ทำให้ตาบอด หรือไปอุดตันในสมอง เรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย การผ่าตัดแก้ไขก็ยากมาก ต้องระวังให้ดี อย่าเห็นแต่ราคาถูกค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายหรือไม่ ?
ตอบได้ง่ายๆ ถ้า ฟิลเลอร์ ที่ฉีดเข้าไปเป็นสาร HA 100% และผ่าน อย. สามารถสลายได้หมด 100% ไม่อันตรายค่ะ และถ้าจะ ฉีดฟิลเลอร์ ให้สวย ไม่แข็ง ไม่เป็นก้อน เป็นธรรมชาติสุดๆ ต้องเลือกยี่ห้อและรุ่นของ ฟิลเลอร์ ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ต้องการฉีดด้วยค่ะ
ที่ Sowon Clinic ตัดความกังวลในเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะก่อนฉีดคุณหมอจะประเมินรูปหน้า และให้คำปรึกษาแนะนำด้วยตนเอง และสอนเช็ค ฟิลเลอร์ แท้ทุกครั้ง ที่สำคัญคุณหมอจะเป็นคนเลือกยี่ห้อ และรุ่นของฟิลเลอร์ให้คุณ เพื่อความเหมาะสม และทำให้การฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ โดยที่ Sowon Clinic จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้วว่าให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติไม่ทำให้คุณผิดหวัง ดังนี้ค่ะ
Juvederm ฟิลเลอร์นำเข้าจากอเมริกา ซึ่งยี่ห้อนี้บอกได้เลยว่าการันตีคุณภาพมายาวนาน ซึ่งตัวของฟิลเลอร์ ของจูวีเดิร์มนั้น ก็มีหลากหลายรุ่น ที่คุณหมอจะเลือกฉีดให้ตามความเหมาะสมของแต่ละจุดบนใบหน้าค่ะ
Belotero filler หรือ colorful filler ฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดีและราคาไม่แพง จับต้องได้ค่ะ
Neuramis ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี เด่นเรื่องราคาที่ประหยัดและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีโมเลกุลที่ค่อนข้างแข็งกว่า 2 ยี่ห้อก่อนหน้า ซึ่งตอนนี้ผ่านการรับรองในประเทศไทยเรียบร้อยแล้วค่ะ
8 จุดสุดฮิตที่นิยม ฉีดฟิลเลอร์ แต่ละจุดต้องฉีดปริมาณเท่าไหร่ ?
ตำแหน่งฮิต ที่สามารถฉีด ฟิลเลอร์ ได้อย่างปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยง ซึ่งแต่ละจุดจะใช้ปริมาณที่แตกต่างกัน ตามปัญหาของคนไข้ และตามการประเมินของแพทย์ มี 8 จุด ดังนี้ค่ะ
- ขมับ ใช้ปริมาณในการฉีด 2 – 3 CC สามารถฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับบุ๋ม สาเหตุที่ทำให้โครงหน้าดูแก่ หน้าโทรม แต่จุดนี้ต้องระวังให้ดีเพราะเป็นจุดที่มีเส้นเลือดใหญ่ ทำให้บอบบาง และยากแก่การฉีด ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญนะคะ
- แก้มส้ม ใช้ปริมาณในการฉีด 2 – 4 CC ฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาหน้าไม่มีมิติ ช่วยยกกระชับรูปหน้าให้สวยอวบอิ่ม ดูเด็กขึ้นอีกด้วย
- ร่องแก้ม ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC แก้ปัญหาร่องแก้มลึก มีร่องน้ำหมาก เห็นเป็นรอยชัด เหมือนคุณยายทำให้สาวๆ หมดความมั่นใจไปมากเหมือนกัน ฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมร่องแก้มลึกให้ตื้นขึ้นได้ค่ะ
- ใต้ตา ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 3 CC ใครที่มีปัญหาใต้ตาลึกโบ๋มีร่องลึก ที่ทำให้ดูไม่สดใส ดูโทรม อ่อนล้า เหมือนคนไม่ได้นอน แก้ไขได้ด้วยเทคนิค ฉีดฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลนุ่ม เพื่อให้ใต้ตาอิ่มเต็มเป็นธรรมชาติค่ะ
- คาง ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนที่มีคางบุ๋ม คางสั้น คางตัด ก็สามารถ ฉีดฟิลเลอร์ทำให้หน้าดูเรียว เข้ารูป คางสวยยาวเป็นธรรมชาติ กว่าการเสริมซิลิโคนค่ะ
- ปาก ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC ฉีดฟิลเลอร์จุดนี้จะสามารถปรับลุคใบหน้าโดยรวมให้หวานหรือเซ็กซี่ได้เลย ฉีดฟิลเลอร์ ปากช่วยแก้ปัญหา ปากไม่สวย ปากบาง ไม่ได้ทรง ให้ปากสวยได้ทรงอวบอิ่ม โดดเด่น เพิ่มความมั่นใจ พร้อมช่วยยกมุมปากให้ดูเป็นมิตร ได้ด้วยนะคะ
- กรอบหน้า ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 4 CC เทคนิค ฉีดฟิลเลอร์ใหม่มาแรง ที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ลดความเด่นชัดบริเวณขากรรไกร ทำให้ใบหน้าส่วนล่างมีความสมดุลขึ้น และที่สำคัญยังช่วยลดความหย่อยคล้อยบริเวณกรอบหน้าในกลับมากระชับเต่งตึงได้ค่ะ
- บริเวณผิว ใช้ปริมาณในการฉีด 1 – 2 CC จะใช้เทคนิคการ ฉีดฟิลเลอร์เข้าที่ผิวชั้นบนแบบตื้นๆ ช่วยเติมเต็มทำให้ผิวอุ้มน้ำได้มากขึ้น ชุ่มชื้นมากขึ้น เติมร่องผิว ช่วยให้ร่องตื้นขึ้น ได้ผิวที่ผิวฉ่ำวาว สดชื่นมีออร่า เปล่งปลั่งมาจากผิวข้างในลุค Glass Skin เหมือนมีไฮไลท์บริเวณที่แสงตกกระทบอยู่ตลอดเวลาแบบสาวเกาหลี โดยไม่ต้องใช้เมคอัพช่วยแม้แต่นิดเดียวค่ะ
ฟิลเลอร์ กี่วันถึงเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วเพราะว่าการ ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่การศัลยกรรมผ่าตัดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน สามารถเห็นผลได้เลยหลังทำซึ่งคนไข้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ในช่วงแรกอาจมีอาการบวมได้ คนไข้อาจจะชอบที่บวมๆฟูๆ เต็มแบบนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาการบวมเหล่านี้จะลดลง เห็นผลลัพธ์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ค่ะ เพื่อให้เวลาฟิลเลอร์สมานรวมกับชั้นผิวให้เรียบเนียน ซึ่งจะมีอายุประมาณ 6-18 เดือน แล้วแต่รุ่นค่ะ และฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้างค่ะ
หากใครที่กำลังสนใจ ฉีดฟิลเลอร์ หรือมีข้อสงสัยกังวลใจเกี่ยวกับเรื่อง ฟิลเลอร์ แนะนำให้ทักเข้ามาสอบถาม
ปรึกษาที่ Sowon Clinic ได้เลยค่ะ ทางเรามีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
Facebook : http://bit.ly/30otQTa
Inbox : http://bit.ly/2VnFCJS
Line Official : http://bit.ly/2w2xNPu (@sowonclinic)
Youtube : http://bit.ly/2HlHsae
Instagram : http://bit.ly/2LJoQ8v
Hotline : 097-207-3296 , 097-180-7020 ,
02-086-3558 , 02-082-3559
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์
อยาก ปากสวย ต้องทำแบบไหน?
ปากสวย นี่เป็นแบบไหนกันนะ รู้มั้ยว่าเทรนด์หัตถการที่เกี่ยวกับปากเนี่ยกำลังมาแรงมากกกกกจะมองไปทางไหน ก็มีแต่คนทำปากทำเป็นไปหมด จนบางทีเนี่ยเราก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอะไรดี บทความนี้ จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นค่า
ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาขอบตาดำ ร่องตาลึกจริงไหม ห้ามพลาด ?
ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้ได้จริงไหม มาฟังกันทางนี้นะคะ
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ? ปากฉ่ำ ฟู อวบอิ่ม ฉีดแล้วปังแน่นอน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี หลายๆคนคงกำลังลังเลว่าจะฉีดยี่ห้อไหนดีนะ ถ้าต้องพูดถึงตัวช่วยเรื่องของความละมุน ความจึ้ง นอกจากโบท็อกซ์ที่สามารถช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กแล้ว
Belotero revive ฟิลเลอร์งานผิวกระจกตัวใหม่ มาแรงแซงรุ่นพี่ คืออะไร ปังยังไง?
Belotero revive ฟิลเลอร์งานผิวกระจก ผิวใส ดียังไง คืออะไร เคลมกันเยอะมากว่าฉีดแล้วผิวใสแบบ 4 D พร้อมเปรียบเทียบกับรีจูรันกันชัด ๆ ให้ดูเลย
เทรนด์หน้าใส 2023 Belotero Revive หรือ Rejuran ตัวไหนดีกว่ากัน?
เทรนด์หน้าใส 2023 มาแรงที่สุดในตอนนี้ Belotero Revive กับ Rejuran ตัวไหนดี เปรียบเทียบให้ดูชัด ๆ กันไปเลย ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่า
รวมยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย.ไทย อัปเดต 2023
ยี่ห้อฟิลเลอร์ ที่ผ่าน อย. ไทยฉีดแล้วหน้าไม่พัง มีกี่ยี่ห้อ ตัวไหนดีตัวไหนปัง ฉีดแล้วหน้าไม่พัง ปลอดภัยรวมมาให้แล้ว